อยู่เหงาๆ เลาไปเที่ยว - เที่ยวเชียงรายด้วยตนเอง โดยไม่มีรถ เช่ารถก็ไม่ได้เช่าน้ะจ้ะ นั่งรถสาธารณะล้วนๆแจร้ ตอนที่แปด : ทริปลมเพ ลมพัด
ตอนเก่าๆ
ตอนแรก : วางแผน
ตอนสอง : บ้านดำ
ตอนสาม : โบกรถ
ตอนสี่ : บะหมี่ สี่โมงเย็น
ตอนห้า : ผิดแผน
ตอนหก : ดึกแล้ว
ตอนเจ็ด : วัดร่องขุ่นใส่กางเกงขาสั้นไปได้ไหม
ทริปลมเพ ลมพัด
ไร่ชาฉุยฟง + ดอยตุง
ขณะที่เลาถ่ายรูปไร่ชาฉุยฟง สองสาวไปนั่งคาเฟ่
เขาแนะนำ เค้กชาเขียว เลาบอกว่าไม่ได้กิน เขาบอกว่าเหมือนมาไม่ถึง
เลาไม่ได้บอกไปว่า ตอนเช้าเลากินกาแฟไปแล้ว ถ้าเลากินชาเขียวหลังเที่ยงอีก เลาจะนอนไม่หลับ
ไร่ชาฉุยฟง อยู่ไม่ไกลกับดอยตุง เป็นไร่ที่มีมุมถ่ายรูปเยอะกว่า ไร่ชา 101 เพราะว่ามันใหญ่กว่านั่นเอง
แต่ไร่ชา 101 อยู่ใกล้ดอยแม่สลองกว่าน้ะจ้ะ อยู่บนดอยแม่สลองเลยแหละ
1.7 km จาก ภูเมฆตะวัน รีสอร์ต เดินประมาณ 26 นาที จากการประมาณการของ google map
ถ้าไม่มีรถเลาก็คงไม่ได้ไป ไร่ชาฉุยฟง เป็นแน่แท้ นี่บังเอิญ ลมเพ ลมพัด
ดอยตุงมีงานพอดี เป็นงาน สีสันดอยตุง สานต่อต่อยอด 360 นาที 30 วัน 3,000 ก้าว บนถนนคนเดินที่สูงที่สุด
ตรงนั้นมีพระตำหนักดอยตุง, สวนแม่ฟ้าหลวง และ สวนรุกขชาติ
เนื่องจากเวลามีน้อยเลยจำเป็นต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง
พระตำหนักดอยตุงด้านในถ่ายรูปไม่ได้ สวนรุกขชาติ ดูเป็นป่าๆ เลยเลือกสวนแม่ฟ้าหลวงกัน
สวนแม่ฟ้าหลวง ค่าเข้า 90 THB เป็นสวนดอกไม้
อยู่บนรถได้ดู plan เที่ยวของสองสาว สองสาวบอกว่า ดูจากเวปบอร์ด pantip
ปรากฏว่า plan คล้ายๆ กันกับเลา เลยแหะ landmark เชียงรายน่าจะมีประมาณนี้แหละ
ที่กิน ที่เที่ยว คล้ายๆกันเลย
จริงๆ เชียงราย มีร้านอาหารอีกเยอะนะ เห็นทั้งบนดอยแม่สลอง และ ในเมืองมีร้านอาหารน่านั่งเยอะ
ร้านอาหาร local เยอะ
ร้านที่แต่งสไตล์ฝรั่งชอบ ฝรั่งนั่งกันตรึมก็เยอะ
แต่นักท่องเที่ยว อย่างเลาๆ ก็นั่งแต่ร้านเดิมๆ ที่เขาเล่าๆกันมาสินะ
16.00 สลับเที่ยววัดในเมืองก่อน เปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นเถอะ
วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ วัดมุงเมือง
เพราะมาถึงเมืองเชียงรายตอนสี่โมง แผนเดิมที่จะไปวัดร่องขุ่น ตอนเย็น เป็นอันพับไป เนื่องจากมีความเสี่ยง ที่จะไปไม่ทันวัดก่อนปิด ( วัดร่องขุ่น จ-ศ 08.00 - 17.30, ส-อา วันหยุดราชการ 08.00-18.00 ห้องแสดงภาพ จ-ศ 08.00-17.30 ) ( ไร่บุญรอด เปิดทุกวัน 09.00-18.00 )
เลยเอาสัมภาระไปที่โรงแรมเชียงราย และเปลี่ยนกางเกง เป็นขาสั้น ก่อน
เพราะว่ายีนส์เหม็นอับมาก ใส่มาตั้งแต่เมื่อวานทั้งวัน ทั้งเหงื่อทั้งอะไร
ไม่รู้ว่าสองสาวได้กลิ่นรึเปล่านะ ถ้ามีกลิ่นก็ต้องขอโทษด้วย
ก็เลยคิดว่า ไป วัดพระแก้วเชียงราย วัดสิงห์ ยังไงก็ใส่ขาสั้นว่ะ เพราะ ทนกลิ่นไม่ไหว
วันที่สามที่ไป วัดร่องขุ่น เลาก็ใส่ขาสั้นไป วัดร่องขุ่นเข้มงวดกับผู้หญิงที่นุ่งสั้นมากๆ อย่างตอนเลาไป เลาเห็นฝรั่งผู้หญิงต้องใส่ผ้าถุง ผู้ชายใส่ขาสั้นเข้าได้ตามปกติแจร้
วัดพระแก้วเชียงราย วัดพระสิงห์ วัดมิ่งเมือง วัดมุงเมือง ผู้ชายขาสั้นก้อเข้าได้จย้า
เที่ยววัดในเมืองก่อน ด้วยความเร่งรีบ แต่ก็ทันแสงเย็น
วัดพระสิงห์ มุมถ่ายรูปทางศิลปกรรมเยอะนะ ถ้าคนชื่นชอบศิลปกรรมน่าจะชอบ เขาสร้างมาดี สอดคล้องกับมุมของแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถไปถ่ายได้ทั้งตอนเย็นและตอนเช้าเลย
มารู้ตอนหลังว่าวัดพระสิงห์ เป็นผลงานการออกแบบของ อ.ถวัลย์ ดัชนี มิน่าๆ
ไปเจอพระสงฆ์ทำวัตรเย็นออกมาพอดี ทุกวัดเลยแหะ
เจอวัดสุดท้าย วัดมุงเมือง ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นวัดมิ่งเมือง พระสงฆ์ทำวัตรเย็น แล้ว เณรมีเก็บเสื่อ มีพระสงฆ์กวาดอุโบสถ
ด้วยความเร่งรีบ เพราะว่า จะต้องไปกินข้าว แล้วไปดูเพลงที่หอนาฬิกาตอนหนึ่งทุ่ม เลยไม่ทันเข้าไปในอุโบสถ ไม่ไปก็ได้ว่ะ
( วัดพระแก้ว เปิดทุกวัน 06.00-19.00 )
( วัดพระสิงห์ เปิดทุกวัน 06.00-18.30 )
เลยเดินดุ่มๆ ไปกินข้าว ร้านไหนดี เพราะดูเหมือนแผนจะผิด เพราะสลับวัดในเมืองมาก่อน
* Tasty Beef restaurant ปิดสามโมง ( ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม 07.00-15.00 ) เลยไม่ได้เดินไป
* เลยคิดว่าจะไปร้านพอใจ ( ร้านพอใจ ข้าวซอยไก่ เปิดทุกวัน 07.00-17.00 ) พอเดินไปถึงปรากฏว่าปิดแล้ว
* จะถ่อไป น้ำเงี้ยวป้าสุข ก็ดูไกลไปนิด เด๋วกลับมาดูไฟที่หอนาฬิกาไม่ทัน
สุดท้ายเดินไปกินข้าวต้มดีกว่า
ผัดมะเขือเสวย
ข้าวต้ม จ เจริญชัย ( ข้าวต้ม จ เจริญชัย 16.00 - 23.00 )
สั่งไก่สับเลิศรส กับ ผัดมะเขือเสวย ไป
เห็นในเมนูบอก ว่า ไก่สับ นี่ customize ขนาดตามจำนวนคน ราคาบนเมนูให้เป็น range มา
เลยบอกเขาว่า เอาชุดเล็ก เพราะมาคนเดียว เดี๋ยวกินไม่หมด
ไก่สับเลิศรสชุดเล็ก + ผัดมะเขือเสวย + ข้าวต้ม + น้ำเปล่า 135 THB
เขามีอีกอันที่อยากลองคือ เต้าหู้หมูแดงฮ่องเต้ แต่มันดูเยอะไปละ เลยไม่ได้ลอง
ภายหลังรู้ว่า แผนกินข้าวเย็นไม่ผิด เกิดจากความงงของข้าพเจ้าเอง ตอนแรกก้อวางว่าจะไปกินข้าวต้ม จ เจริญชัยอยู่แล้ว
หลังกินข้าวเย็น เห็นว่ายังพอมีเวลา เลยคิดว่าจะย้อนกลับไปถ่ายรูป วัดมุงเมือง ที่ตอนนั้นคิดว่าเป็นวัดมิ่งเมือง
ดูจากแผนที่ google map บนมือถือ พบว่า พาไปอีกวัดนึง ซึ่งคราวนี้คือวัด มิ่งเมือง อันที่ถูกต้อง
แผนที่ google map ที่พิมพ์ออกมานี่ พิมพ์ชื่อ วัดมุงเมือง ตัวใหญ่ เลาเลยนึกว่าเลาปักหมุดไว้ จริงๆ เป็น landmark บนแผนที่จย้า
ไปถึงวัดมิ่งเมืองปรากฏว่า ประตูวัดปิดแล้ว แต่ดูจากข้างนอกนี่มีความสวยงามเหมือนกันนะ เลยคิดว่า อาจจะมาตอนเช้าวันพรุ่งนี้ เพราะว่าวัดร่องขุ่น เปิด 08.00 แต่เลาตื่นมากินข้าวเช้าตอน 06.00 น่าจะมีเวลาโต๋เต๋ในเมืองก่อนนั่งรถไปวัดร่องขุ่นประมาณ 1 ชั่วโมง
19.00 ไม่มีโชว์ดนตรี
หอนาฬิกา
หอนาฬิกาเชียงราย จะตีบอกเวลา เวลา 19.00, 20.00, 21.00 เลาวางไว้ว่าจะไปรอบแรก คือ รอบหนึ่งทุ่ม เพราะจะไปกินบัวลอยมือถือ กับ เดินไนท์บาซ่าร์ ต่อ
เหลือเวลาอีก 15 นาทีก็จะถึงหนึ่งทุ่ม แต่เข้าโรงแรมเชียงรายไปก่อน เพราะมีความรู้สึกตะหงิดๆ กับป้ายสีแดงที่แปะตรงหอนาฬิกาที่บอกว่า ไฟซ่อม ขออภัย กับเห็นคนปีนๆ ตรงหอนาฬิกา ตอนกลางวัน
ขนาดไป Google ดูว่า เขามีประกาศจากทางราชการว่าไม่มีโชว์ดนตรีไหม ตอนอยู่ในโรงแรม ปรากฎว่า หาไม่เจอ ไม่มีเวปไหนบอก
หลังจากนั้นจะทุ่มนึงและ ออกมาดูดนตรีที่หอนาฬิกา เห็นคนอยู่ข้างในหอนาฬิกาด้วยนะ เขาจะควบคุมแบบ manual ให้มีคนตรีไหมนะ ในใจหวังนิดๆ
มีนักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งขาตั้งรอถ่ายรูปเหมือนกันแหะ มีฝรั่งต่างชาติมารอดูการแสดงไฟ ที่หอนาฬิกา
ต่างกับเมื่อตอนกลางวัน ตอนเย็น ที่ข้าพเจ้าผ่านมาที่หอนาฬิกา ที่มีแต่ข้าพเจ้าเท่านั้นที่สนใจถ่ายรูป คนทั่วไปเขาก้อผ่านไปผ่านมาเฉยๆ
19.00 นาฬิกาตีบอกเวลา
หลังจากนั้นทุกอย่างเงียบสงบ
เงียบสงบสักพัก นักท่องเที่ยวฝรั่งที่มารอชมดนตรีของหอนาฬิกาปรบมือ กับร้องวู้ว เหมือนกับการร้องก่อนการแสดง
แต่ปรากฎว่า ก็ยังเงียบอยู่ดี ไฟก็เป็นสีเหลืองปกติ ไม่ได้เปลี่ยนสีอะไร
หอนาฬิกาไฟไม่มีดนตรีจย้า
บัวลอยมือถือ ที่ Night Bazaar
จากหอนาฬิกาเดินไป Night Bazaar นับว่าไม่ไกล เลาเองก็เดินตามฝรั่งกลุ่มที่แห้วจากการดูไฟที่หอนาฬิกาไปทางนั้นเหมือนกัน
แต่เลาจะไปลองบัวลอยมือถือที่อยู่ทางเดียวกัน
พอเดินไปถึงพบว่า ไม่เพียงอยู่ทางเดียวกัน แต่บัวลอยมือถืออยู่ตรงทางเข้า Night Bazaar เลย
ป้ายบอกว่า กี่ปี ขึ้นโต๊ะเสวยพระเทพ ไปกี่ครั้ง พระเทพน่าจะทรงโปรดของหวาน
เลาลอง บัวลอยไอติม 25 THB บัวลอยร้อน ไอติมเย็น มีความแปลก
บัวลอยไข่เค็มก็มีนะ แต่ไม่ได้ลอง
( ร้านป้าอ้วนบัวลอยมือถือ เปิดทุกวัน 18.00-21.00 )
Night Bazaar (เชียงราย Night Bazaar เปิดทุกวัน 18.30-24.00) มีขายของกินด้วยนะ เป็นลานคล้ายๆ ลานอาหารที่มาเลเซีย แบบว่า เป็นบู้ทๆ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกภาพลานเบียร์
แต่เลากินมาแล้วเลยได้แค่เดินส่อง เห็นที่กินกันเยอะ เป็นหม้อดินต้มยำหรืออะไรสักอย่าง เป็นหม้อดินร้อนๆตั้งไฟ อ่ะ
เห็นร้านหมาล่าก้อมีนะ แถวๆนั้น
ส่วนของขายคล้ายๆ สวนลุมไนท์บาซ่า น่าจะเจาะกลุ่มฝรั่งซะส่วนมาก
มาเจอขนมแป้งข้าวเหนียวที่ซื้อลองบนดอยตลาดเช้าด้วยนะ ร้านมีแปะป้ายชื่อเรียก
ขนาดท่องมาเลายังจำไม่ได้ 555 ราคา 10 บาทเท่ากันกับบนดอย
คืนนี้เลาพักที่โรงแรมเชียงราย เลาเลือกพักที่นี่ เพราะใกล้หอนาฬิกา และดูจากรูปห้อง แต่ รูปโถงระเบียงสีขาวนี่ มีอิทธิพลให้กดจองมาก
โรงแรมเชียงรายไม่มีอาหารเช้า มี hot organic tea ให้ 2 ที่ ที่ The white kitchen ร้านอาหารของทางโรงแรมทานได้เวลา 06.30 - 22.00 แต่ตอนบ่ายวันที่เช็คอินกินแล้วกลัวนอนไม่กลับ ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเลาตื่น 06.00 แล้ว เลยไม่ได้ทาน
พอไปพักเพิ่งรู้ว่าโรงแรมเชียงรายเป็นโรงแรมเก่าแก่ มีการตั้งตู้สลับสายโทรศัพท์ในโรงแรมสมัยก่อนให้ดูด้วย
มีโรงแรมอื่นๆ ที่เล็งไว้ตอนจอง
* B2 ไม่มีอาหารเช้า อ่านในเวปมีคนบอกว่าห้องแคบไปนิส
แต่สองสาวที่ช่วยมาส่งนั่นพัก B2 นะ
B2 มีสองที่ในเชียงราย มีอันนึงใกล้ night bazaar ต้องลองหาดูว่าอันไหน
* Happy Nest ไกลจากหอนาฬิกาไปนิส
เหมาะกับคนเช่ารถ อย่างเพื่อนเลาที่มาเที่ยวเชียงราย เช่ารถ เก็บสัมภาระไว้ในรถ และเดินทางไกลได้
โรงแรมตกแต่งได้อารมณ์แบบฝรั่งน่าจะชอบ เป็น hostel ค่าที่พักถูก
มีห้องแบบสามคน ซึ่งเพื่อนเลาที่ไปก็ไปสามคนพอดีเลยนอนห้องนึง
จริงๆ พัก hostel เป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน กับการพบเพื่อนใหม่ แล้วไปเที่ยวด้วยกัน
แต่ plan เลาคือไปดอยแม่สลองคืนนึง และ พักที่ตัวเมืองเชียงรายคืนนึง
plan ไว้ว่าจะเที่ยวในเมืองอะไรบ้างแล้วค่อนข้างจะชัดเจน
ถ้าเลาไม่นอนที่ดอย พักที่ hostel สองคืน
hostel ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกับการไปตะลุยกับเพื่อนใหม่ๆ นะ
มีอีกสองที่ ที่ได้อารมณ์แบบบ้านๆ ซึ่งเป็นการดัดแปลงบ้านมาทำเป็นที่พักที่เล็งไว้ คือ
* บ้านนอนเพลิน
* บ้านรับอรุณเกสท์เฮ้าส์
โรงแรมในตัวเมืองมีเยอะ ราคาก็หลากหลาย จองไม่ยากเหมือนโรงแรมบนดอย
เลาเองจองกับ agoda แต่มันมีของ hotel.com ด้วยแหละ ตอนนั้นที่ดู
พอเข้าไปดูของ agoda ก้อจะโดน ads hotel ที่เชียงราย ตามหลอกหลอนไปทั้งบนเฟซบุ๊คทั้งที่ไหนต่อที่ไหนไปสักพักใหญ่ๆเลยหล่ะ
วันอังคาร 12 ธันวาคม
05.30 checkout ก่อน หรือ ไปเที่ยวก่อน แล้วค่อยกลับมาเช็คเอาท์
ตอนมีเรื่องให้ตัดสินใจว่า จะเช็คเอาท์ก่อน แล้วฝากกระเป๋าไว้
หรือ จะไปเที่ยวก่อน แล้วค่อยกลับมาเช็คเอาท์
ข้อดีของการไปเที่ยวก่อนแล้วค่อยกลับมา คือ อาบน้ำในห้องได้ แล้วก้อโบกแท็กซี่ไปสนามบิน ตัวหอมๆ
แต่เมื่อวานสองสาวเที่ยว ไร่ชาฉุยฟง ดอยตุง ร้านกาแฟชีวิตธรรมดา แล้วไปขึ้นเครื่องเลย
เลยตัดสินใจว่า ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้ว่ะ
อีกความคิดนึงที่เข้ามาคือ ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม
พอเที่ยวเสร็จเรียกแท็กซี่จาก วัดร่องขุ่น หรือ สิงห์ปาร์ค ไปสนามบินเลย
แต่ขอให้เขาแวะเอาของที่โรงแรม
แต่แพลนนี้พับไป เพราะว่า อยากแวะกินข้าวในตัวเมืองก่อน มีร้านอาหารที่ยังไม่ได้ลอง
ฝากกระเป๋าที่โรงแรมเชียงราย เขามีเบอร์ป้ายให้ด้วยนะ เหมือนบู้ทรับฝากกระเป๋าตามห้างเบย
วิวตอนเช้า ไฟเปลี่ยนสีที่หอนาฬิกา
เนื่องจากโรงแรมเชียงรายอยู่ใกล้หอนาฬิกา เลาเดินจะไปกินอาหารเช้าก้อต้องผ่านหอนาฬิกา
ปรากฏว่า ไฟที่หอนาฬิกาเปลี่ยนสีแจร้ !!
เปลี่ยนสีเหมือนตอนโชว์เบย แค่ไม่มีเสียงดนตรี
นับว่าโชคดี จากที่แห้วมาเมื่อคืน แต่ได้ดูไฟตอนเช้าแทน
เลยได้มุมไฟที่หอนาฬิกา ตอนพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ สวยอีกแบบ
06.00 ไข่กระทะ
ไปถึง 6 โมง เจอเขาตั้งร้านพอดี
สั่งไข่กระทะ + ขนมปัง 40 THB
ปาท่องโก๋ ตัวละ 2 THB
กาแฟโบราณ 15 THB
เขามีกาแฟสดด้วยนะ แต่เลากินกาแฟโบราณ
ว่าจะลอง ปั้นเปา ซาละเปา ที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วยนะ ชิ้นละ 10 บาท
(ปั้นเปาซาละเปา 08.00-21.00) แต่ดันอิ่มซะก่อน
ก่อนไปกินไข่กะทะ เจอยายเดินเร่ขายพวงมาลัยชักชวนให้ซื้อพวงมาลัย พวงละ 10 บาท มองๆว่าซื้อถวายพระที่บิณฑบาต
แต่คิดว่า พระสงฆ์ น่าจะอยากได้อาหารเช้ามากกว่า พวงมาลัย เลยเอาพวงมาลัยไปถวายพระพุทธรูปที่วัดมิ่งเมืองดีกว่า
ตอนนั่งกินไข่กะทะ เจอยายคนเดิมเข้ามาขาย เลยบอกว่าซื้อแล้ว แล้วชี้ให้ดู ยายเข้ามากอด บอกว่า อุดหนุนยายแล้ว
ก่อนไปวัดมิ่งเมือง เห็นเมฆสวยแจร้
วกกลับหอนาฬิกา ถ่ายเมฆก่อน
วัดมิ่งเมือง
เมฆวันนี้สวยดี แวะถ่ายวัดมิ่งเมือง เดินเข้าไปในพระอุโบสถ เขาให้จุดธูปเทียนด้านนอก เลยแขวนพวงมาลัยที่ซื้อกับยายเมื่อเช้าให้กับพระด้านนอก
( วัดมิ่งเมือง เปิดทุกวัน 06.00-19.00 )
แล้วยังแวะกลับไปถ่ายรูปที่วัดพระแก้ว กับ วัดพระสิงห์ เนื่องจากอยู่ใกล้กัน
เพราะเมื่อวานเล็งพระอุโบสถวัดพระสิงห์ไว้ เนื่องจากตอนเย็นมันย้อนแสง ต้องมาตอนเช้าถึงไม่ย้อนแสง เลยมาตอนเช้าอีกที
แต่ตอนเช้าจำผิดนึกว่าอุโบสถที่ถ่ายย้อนแสงเป็นวัดพระแก้ว เลยไปวัดพระแก้วด้วย แล้วก้อ วัดพระสิงห์ด้วย
วัดพระสิงห์หมาเยอะมากโดยเฉพาะตอนเช้า มีจะมาเล่นด้วยอย่างเป็นมิตร แต่ข้าพเจ้าไม่มีเวลา เลยไม่ได้เล่นกับมันเบย
หมาที่เชียงรายตัวใหญ่นะ หมาที่วัดพระแก้วที่เชียงรายก็ตัวใหญ่
หลังจากถ่ายสามวัดเสร็จก็ไปขนส่งเก่า เพราะว่าจะนั่งรถเมล์ไปวัดร่องขุ่น
ก่อนไปขนส่งเชียงราย ผ่านโบสถ์ จริงๆโบสถ์นี้เห็นตั้งแต่เดินไปไนท์บาซ่าเมื่อคืน เห็นสวยดี ตอนเช้านี้ผ่านเลยถ่ายซักหน่อย
ว่าจะแวะถ่ายหมาอาบแดดระหว่างทาง แสงสวยดีนะ แต่กลัวไม่ทัน ไปดีกว่า
09.05 ตกรถ
สถานีขนส่งเชียงราย(เก่า)
มาข้าไป 5 นาที เพราะมัวแต่ไปละเมียดกับการถ่ายวัดยามเช้า กับ ถ่ายหอนาฬิกาที่มีเมฆสวย
รถมีเป็นรอบ 09.00 ตอนนี้ 09.05 ถามเจ้าหน้าที่ที่ information เขาบอกรอบต่อไป 10.00 ต้องรอเกือบชั่วโมง
ในข้อมูลที่หามา ไม่เห็นบอกว่ารถออกเป็นรอบ เลยไม่ได้ระวังจุดนี้
ไม่รอดีกว่า เลยต้องโบกแท็กซี่มิเตอร์จากแถวๆขนส่งไป
เลยต้องจ่ายค่าแท็กซี่จากขนส่งไปวัดร่องขุ่น 130 บาท แทนที่จะจ่ายค่ารถเมล์ 20 บาท
สถานีขนส่งเชียงราย(เก่า) - วัดร่องขุ่น Drive 14 km 18 minutes
White Temple วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุ่นไม่เสียค่าเข้า เวลาเดินให้เดินทางเดียวห้ามเดินย้อนมา ขนาดเข้าไปชมห้องแสดงภาพด้วยแล้ว ภายในห้องแสดงภาพมีภาพ จักรวาล ของอาจารย์เฉลิมชัย ที่อาจารย์ของอาจารย์ให้คะแนนนิดเดียว เพราะ ไม่มีความหมายทางศิลปะ มาให้ชมด้วย ผลงานบางชิ้นเลาเคยเห็นมีคนยื้มเอาไปวางตามที่ต่างๆ เช่น MOCA ในกรุงเทพฯ
ร้านขายที่ระลึกขายภาพพิมพ์รูปวาดของอาจารย์ รูปใหญ่ ราคา 2,000 บาท รูปราคาหลักร้อยก็มี
เดินดูวัดร่องขุ่น ใช้เวลาน้อยกว่าที่คิดไว้
เลยคิดว่าแวะไปไร่บุญรอดด้วยดีกว่า เพราะว่าอยู่ใกล้กัน
พอออกมาจากวัดร่องขุ่น มีแท็กซี่คันนึง ติดป้ายว่างจอดอยู่แต่พอเดินไปดูคนขับไม่มี
เดินออกไปถนนใหญ่แท็กซี่ก้อไม่ค่อยมี แถมที่มีก็มีคนนั่งแล้วอีก
เลยลองเปิด app grap taxi จากที่ได้รับ notification promotion HAPPYDEC 3 วัน ลด 60 บาท ตั้งแต่เช้าวันนี้
แต่พอเปิดปุ๊ป app มันบอกว่า cannot redeem มารู้ทีหลังว่า ใช้ได้เฉพาะในกทม.
grab taxi มันขึ้นค่ารถจากวัดร่องขุ่นไปไร่บุญรอด 160 บาท แพงไปจย้า ระยะทางแค่ 6 km เท่านั้น
เลยพึ่ง call center taxi เชียงราย
เขาบอกรอประมาณ 15 นาที
หลังจาก call ได้ไม่นาน มีแท็กซี่มิเตอร์คันนึงมาส่งฝรั่งหน้าวัดร่องขุ่นพอดี
เลยโทรไปยกเลิก call center ดีเลยไม่ต้องเสียค่าเรียก 20 บาท
ค่ารถแท็กซี่จากวัดร่องขุ่นไปไร่บุญรอดประมาณ 70-90 บาท
วัดร่องขุ่น - ไร่บุญรอด Drive 6 km 7 minutes
12.30 ไร่บุญรอด
รถชมไร่ คนทั่วไป 100 บาท จอดจุดละ 10 นาที ขึ้นรถคันเดิม เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง
อีกทั้งต้องรอรอบ 13.30 เพราะรอบ 12.30 มันเต็มแล้ว เลยไม่เอาดีกว่า เด๋วขึ้นเครื่องกลับไม่ทัน
มีจักรยานให้เช่าด้วยนะ แต่ไม่ได้ถามราคามา
นั่งชิลดีกว่าแจ้
ซื้อนมสดจากไร่ 60 บาท จริงๆ พอสั่งเสร็จเพิ่งเหลือบไปเห็นเสาวรส 50 บาทด้วยนะ แต่ช่างแม่ม สั่งไปแล้ว
ไปนั่งตรงที่นั่งร้านกาแฟตรงที่มองไปเห็นตรงโลโก้สิงห์ปาร์ค เผื่อว่าจะรอตอนไม่มีคน จะได้วิ่งไปถ่ายรูป
แต่ปรากฎว่า คนที่ถ่ายชุดเก่า ออกไป คนที่ถ่ายชุดใหม่เข้ามาตลอด ไม่มีโอกาสเบยแจร้
และขณะเดียวกัน ก็รอว่าจะมีแท็กซี่มาส่งผู้โดยสารที่ไร่บุญรอดไหมนะ
ถ้ามีจะได้เรียกต่อเข้าเมือง
บังเอิญตอนนั้นไม่มีซักคัน
ไม่กล้าโทรไป call center taxi ด้วยเนื่องจากเพิ่งเทไปตอนจากวัดร่องขุ่นมานี่
grab taxi แม่มเอา 200 บาท ไอสัส
แต่สุดท้าย เหลือบไปถนนใหญ่ เห็นสองแถวสีฟ้า
เลยคิดว่าน่าจะโบกเข้าเมืองได้ เลยไปรอโบกข้างหน้า
สองแถวเขาคิด 50 บาท เลยตกลง
ตอนนั้นสองแถวส่งสาว 3 คนมาไร่สิงห์พอดี 3 คนทำไมเหมา 100 เดียววะ
ไร่บุญรอด - ตัวเมืองเชียงราย hotel, Drive 12 km, 19 minutes
บนรถเจอฝรั่งชาติไหนไม่รู้ พูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นพ่อแม่วัยรุ่นกับเด็กอีกสองคน เขาเอารถเข็นเด็กขึ้นสองแถวด้วย
เขาชวนคุยว่า White Temple สวยมาก
แล้วถามว่าเลาไป Blue Temple หรือยัง เลาบอกว่ายัง เขาบอกเขาก้อยังไม่ได้ไป
เขาถามเลาว่า เลาจะไปไหน เลาบอกว่าเราไป หอนาฬิกา
แล้วเลาก็ถามว่าเขาไปไหน เขาบอกว่า เขาจะไปห้างใหญ่ๆ ที่มี McDonald ร้านค้าอะไรพวกนั้น
แต่เขาบอกว่าไม่รู้คนขับเข้าใจรึเปล่า
ถามชื่อห้างเขาบอกจำไม่ได้ว่าอะไร festival ซักอย่าง
เลยเดาว่าเป็นเซ็นทรัล
เลาบอกเขาว่างั้นเลาบอกคนขับให้
สองแถวผ่านพิพิธภัณฑ์อูบคำด้วยนะ แต่เนื่องจากไม่มีเวลาแล้ว ถ้าแวะอาจจะไปขึ้นเครื่องบินไม่ทัน
พี่สองแถวจอดให้ตรงสี่แยก เขาบอกว่า สามารถเดินไปหอนาฬิกาได้ หรือ ถ้าท่ารถสองแถวก็เลี้ยวซ้าย
เลาบอกลุงคนขับให้ฝรั่งว่าฝรั่งจะไปห้างเซ็นทรัล festival ซึ่งโชคดีนะ เพราะตอนแรกคนขับนึกว่าฝรั่งจะไปวัดสีฟ้า ( วัดร่องเสือเต้น )
หลังจากนั้นก็ลากันออกมา
เดินไปดูพบว่า มีท่ารถสองแถว อยู่หน้าเทศบาล
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม
แวะกินก่อน
ตอนแรกสั่ง ข้าวแกงกะหรี่เอ็นวัว คนจดรายการอาหารถามเอาเกาเหลาด้วยไหม
งงดิ ถามไปว่าข้าวแกงกะหรี่เอ็นวัว ไม่มีเนื้อหรอ คนจดบอกว่า ร้านขายเนื้อวัว
กินก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเนื้อวัวก็ได้ว่ะ
ร้านแด๊งแดงนะเลาว่า มีรูปถ่ายเต็มผนัง มีถ่ายกับ ทักษิณ ตอนมากินที่ร้าน
แล้วก็น่าจะใครซักคนในร้านใส่เสื้อแดงถ่ายกับป้าย ราชประสงค์
ขากลับผ่านร้านปั้นเปาด้วยแหะ แต่กินข้าวกลางวันอิ่มแล้ว เลยอดใจไว้ไม่ได้ลอง
ผ่านร้านสุจินต์หมูยอ เลยซื้อ รส original เล็ก 30 THB มา 2 อัน เป็นของฝากกลับกรุงเทพ
ถ้ารส original ใหญ่ 40 THB
มีรสพริกไทย ด้วย เล็ก 30 บาท ใหญ่ 40 บาท เหมือนกัน แต่ขอลองแบบ original ก่อน
ภายหลังเลาลองเดินๆที่สนามบินเชียงราย มีสุจินต์หมูยอขาย เหมือนกัน แต่อันเล็ก 35 บาท
สนามบินเชียงรายแล้ว
ประมาณบ่ายโมงเลาก้อออกจากตัวเมืองเชียงรายแล้ว ไปทันสนามบินเชียงรายเริ่ม checkin 13.30 พอดี
แท็กซี่บอกว่าเคยมีผัวเมียทะเลาะกันก่อนขึ้นรถ แล้วต้องมาส่งให้ทัน เลยรีบซิ่งมา
ซึ่งถ้ามาสนามบินก็ต้องเผื่อเวลาไว้นิดนึง เพราะ เลายังต้องต่อคิวสแกนกระเป๋าก่อนเข้าสนามบิน และตอนเอาตั๋วก็ใช้เวลาต่อคิวเหมือนกัน
รถแท็กซี่จากหอนาฬิกา ไปสนามบินเชียงราย 90 THB แต่คนขับคิด 100 THB เอาว่ะ ให้ไปได้
โรงแรมเชียงราย - สนามบินเชียงราย Drive 10 km. 17 minutes
ที่สนามบินมีของขายตรงชั้น 1 มีร้านข้าวซอย ร้านกาแฟดอยตุง
แล้วก้อตั๋วเครื่องบินก็ไปรับจากบู้ทของสายการบินที่อยู่ชั้น 1 ได้เลย
boarding time ของสนามบินนี่เป็น manual ไม่ได้ใช้จอมอนิเตอร์ เป็นกระดาษเขียนแปะไว้ เที่ยวบินไหน กี่โมง แต่อันบอก gate ของสนามบินนี่เป็นจอนะ
ถ้าจะเข้าไปข้างใน ที่ทางเข้าอยู่ชั้น 1 นั่นแหละ ต้องแสดง boarding pass และ บัตรประชาชน
ตรงที่รอเครื่องบิน ชั้นบน ทางออกอยู่โซนเดียวกันหมด ที่นั่งรอก็เห็นทางออกหมดทุกอัน
ที่นั่งโซนข้างหลังมีปลั้กให้ชาร์จโทรศัพท์มือถือด้วยนะ
เนื่องจากเรา checkin เข้ามาเร็ว gate ไหนยังไม่ขึ้นจอเลย
เดินไปถามเจ้าหน้าที่ตรง boarding เขาบอกว่า เดี๋ยวมีเจ้าหน้าที่ของ vietjet มา
รอสักพักก้อมีมาจริงๆ เอา popup แอร์สายการบิน vietjet มาตั้งเลยทีเดียว
ตอนรอเครื่องบิน มีประกาศของสนามบินเป็นระยะๆ เสียงเหน่อดีจัง
โปรดทราบๆ หมี๋ผู้พบเห็นถึงของฝาก ภายในมีแคบหมู ผู้ที่เป็นเจ้าของกรุณาติดต่อรับสัมภาระของท่านด่วนค่ะ
boarding 14.55 เครื่องบินออก 15.15 กลับถึงกทม โดยสวัสดิภาพ
ตอนแอร์โฮสเตส พูดภาษาอังกฤษ ตอนประกาศ บอกว่า Suvarnabhumi Airport กรุงเทพฯ เอ๊ย ... Bangkok หลังจากนั้นมีเสียงหลุดหัวเราะมาเป็นครั้งคราว
ลงเครื่องบิน กลับมา ทางเดิมกับตอนขึ้นเครื่องบิน ร้านค้าเปิดหมดแล้ว
เลายังจำตู้ ATM KBank ในสนามบิน ที่กดตังค์ตอนขามาได้
ต่อรถ airport link แล้วก้อ BTS
เดินกลับบ้านบนทางที่คุ้นเคย นี่ขนาดไปแค่สามวัน
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ...
และอื่นๆ
จริงๆ มีอีกสามที่ในเมืองที่เผื่อไว้ว่าจะไป ถ้ามีเวลา เพราะว่าค่อนข้างไกลในเมือง แต่ไม่ได้ไป ในทริปนี้คือ
* วัดพระธาตุจอมทอง
หอนาฬิกา - วัดพระธาตุจอมทอง 1.6 km เดิน 21 นาที
( วัดพระธาตุจอมทอง เปิดทุกวัน 06.00-19.00 )
* พิพิธภัณฑ์อูบคำ
หอนาฬิกา - Oub Kham Museum 1.9 km เดิน 24 นาที
( Oub Kham Museum เปิดทุกวัน 08.00-17.00 ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนไทย 200 บาท )
* ศาลารอยพระบาท พระบาทสมเด็จพระพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย อันนี้ถ้ามีรถคงไปได้ เพราะค่อนข้างไกลจากหอนาฬิกา เดินไม่ไหว
มีอีกสามที่ในเมืองที่ปักไว้ แต่ไม่ได้ไป เพราะ เลาอยู่ในเมืองวันจันทร์-วันอังคาร
* หอศิลป์ไตยวน
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย เปิด พุธ - อาทิตย์ 10.00-17.00
* ถนนคนม่วน
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย เปิดเฉพาะคืนวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 23.30 น.
* ถนนคนเดิน
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย เปิดเฉพาะคืนวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.- 24.00 น.
สรุปค่าใช้จ่าย
* ค่าเครื่องบินไปกลับเชียงราย โปร 0 บาท แต่พอรวมภาษีและค่าอื่นๆแล้ว 529.56 บาท
* ที่พัก ภูเมฆตะวัน 1696.81 บาท จองผ่าน agoda
* ที่พัก เชียงราย hotel 1 คืน Standard Room 585.40 บาท จองผ่าน agoda
วันอาทิตย์ 10 ธันวาคม
* แท็กซี่จากบ้านไปสนามบินสุวรรณภูมิ 285 THB แอบแพง แต่มันเช้า รถไฟฟ้ากับแอร์พอร์ตลิงก์ยังไม่เปิด ไม่มีทางเลือก
* แท็กซี่จากสนามบินไปบ้านดำ ค่าเรียกจากสนามบิน 30 THB + ตามมิเตอร์อีก 110 THB
* อาหารเช้า ร้านกาแฟนางแล แซนด์วิชทูน่า 120-130 THB, ค่ากาแฟ คาปูชิโน่เย็น 73 THB
* บ้านดำ ค่าเข้า 80 บาท
* ค่ารถเมล์ จาก บ้านดำ ไป แม่จัน 20 บาท
* อาหารกลางวัน ข้าวไข่เจียวฟู ร้านตามสั่งที่แม่จัน 40 บาท, ค่าน้ำกดเอง 5 บาท
* ค่ารถสองแถวสีเขียว จากแม่จันไปกิ่วสะไตไปแม่สลอง 60 บาท
* อาหารเย็น บะหมี่เกี้ยวยูนนาน เส้นทำเอง บนแม่สลอง 40 THB น้ำกดฟรี
* โกโก้เย็น ที่ ภูเมฆตะวันรีสอร์ต 60 บาท
รวมวันแรก 935 บาท
วันจันทร์ 11 ธันวาคม
* ข้าวเช้าที่ภูเมฆตะวันรีสอร์ต ฟรี เพราะ รวมกับค่าที่พักแล้ว
* ค่าขนมข้าวเหนียวแผ่นๆ ที่ลองกินตลาดเช้าบนดอยแม่สลอง 10 บาท
* ค่าเข้าชมสวนแม่ฟ้าหลวง 90 บาท
* อาหารเย็น ข้าวต้ม จ เจริญชัย ข้าวต้ม+มะเขือเสวย+ไก่+น้ำ 135 บาท
* บัวลอยมือถือ ที่ไนท์บาซ่า 25 บาท
รวมวันที่สอง 260 บาท
วันอังคาร 12 ธันวาคม
* อาหารเช้า ที่ Yellow Truck ไข่กะทะ + ขนมปัง 40 บาท + ปาท่องโก๋หนึ่งตัว 2 บาท + กาแฟโบราณ 15 บาท
* ค่า taxi จาก ขนส่งเชียงราย ไป วัดร่องขุ่น 130 บาท
* ค่า taxi จาก วัดร่องขุ่น ไป ไร่บุญรอด 70-90 บาท
* ค่านมสดที่ไร่บุญรอด 60 บาท
* ค่าสองแถวสีฟ้า จาก ไร่บุญรอด เข้าตัวเมืองเชียงราย 50 บาท
* อาหารกลางวัน ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม 80 บาท น้ำเปล่าฟรี
* ค่าของฝาก สุจินต์หมูยอ รส original เล็ก 30 x 2 = 60 บาท
* ค่า taxi จาก หอนาฬิกา ไปสนามบินเชียงราย 100 บาท
รวมวันที่สาม 628 บาท
รวมทั้งทริปประมาณ 4634.77 บาท
ตอนทั้งหมดในซีรีส์นี้
ตอนแรก : วางแผน
ตอนสอง : บ้านดำ
ตอนสาม : โบกรถ
ตอนสี่ : บะหมี่ สี่โมงเย็น
ตอนห้า : ผิดแผน
ตอนหก : ดึกแล้ว
ตอนเจ็ด : วัดร่องขุ่นใส่กางเกงขาสั้นไปได้ไหม
ตอนแปด : ทริปลมเพ ลมพัด
ตอนแรก : วางแผน
ตอนสอง : บ้านดำ
ตอนสาม : โบกรถ
ตอนสี่ : บะหมี่ สี่โมงเย็น
ตอนห้า : ผิดแผน
ตอนหก : ดึกแล้ว
ตอนเจ็ด : วัดร่องขุ่นใส่กางเกงขาสั้นไปได้ไหม
ตอนแปด : ทริปลมเพ ลมพัด
ทริปลมเพ ลมพัด
ไร่ชาฉุยฟง + ดอยตุง
ขณะที่เลาถ่ายรูปไร่ชาฉุยฟง สองสาวไปนั่งคาเฟ่
เขาแนะนำ เค้กชาเขียว เลาบอกว่าไม่ได้กิน เขาบอกว่าเหมือนมาไม่ถึง
เลาไม่ได้บอกไปว่า ตอนเช้าเลากินกาแฟไปแล้ว ถ้าเลากินชาเขียวหลังเที่ยงอีก เลาจะนอนไม่หลับ
ไร่ชาฉุยฟง อยู่ไม่ไกลกับดอยตุง เป็นไร่ที่มีมุมถ่ายรูปเยอะกว่า ไร่ชา 101 เพราะว่ามันใหญ่กว่านั่นเอง
แต่ไร่ชา 101 อยู่ใกล้ดอยแม่สลองกว่าน้ะจ้ะ อยู่บนดอยแม่สลองเลยแหละ
1.7 km จาก ภูเมฆตะวัน รีสอร์ต เดินประมาณ 26 นาที จากการประมาณการของ google map
ถ้าไม่มีรถเลาก็คงไม่ได้ไป ไร่ชาฉุยฟง เป็นแน่แท้ นี่บังเอิญ ลมเพ ลมพัด
ไร่ชาฉุยฟง
ตรงนั้นมีพระตำหนักดอยตุง, สวนแม่ฟ้าหลวง และ สวนรุกขชาติ
เนื่องจากเวลามีน้อยเลยจำเป็นต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง
พระตำหนักดอยตุงด้านในถ่ายรูปไม่ได้ สวนรุกขชาติ ดูเป็นป่าๆ เลยเลือกสวนแม่ฟ้าหลวงกัน
สวนแม่ฟ้าหลวง ค่าเข้า 90 THB เป็นสวนดอกไม้
สวนแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จ้ะ
ปรากฏว่า plan คล้ายๆ กันกับเลา เลยแหะ landmark เชียงรายน่าจะมีประมาณนี้แหละ
ที่กิน ที่เที่ยว คล้ายๆกันเลย
จริงๆ เชียงราย มีร้านอาหารอีกเยอะนะ เห็นทั้งบนดอยแม่สลอง และ ในเมืองมีร้านอาหารน่านั่งเยอะ
ร้านอาหาร local เยอะ
ร้านที่แต่งสไตล์ฝรั่งชอบ ฝรั่งนั่งกันตรึมก็เยอะ
แต่นักท่องเที่ยว อย่างเลาๆ ก็นั่งแต่ร้านเดิมๆ ที่เขาเล่าๆกันมาสินะ
16.00 สลับเที่ยววัดในเมืองก่อน เปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นเถอะ
วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ วัดมุงเมือง
เลยเอาสัมภาระไปที่โรงแรมเชียงราย และเปลี่ยนกางเกง เป็นขาสั้น ก่อน
เพราะว่ายีนส์เหม็นอับมาก ใส่มาตั้งแต่เมื่อวานทั้งวัน ทั้งเหงื่อทั้งอะไร
ไม่รู้ว่าสองสาวได้กลิ่นรึเปล่านะ ถ้ามีกลิ่นก็ต้องขอโทษด้วย
วันที่สามที่ไป วัดร่องขุ่น เลาก็ใส่ขาสั้นไป วัดร่องขุ่นเข้มงวดกับผู้หญิงที่นุ่งสั้นมากๆ อย่างตอนเลาไป เลาเห็นฝรั่งผู้หญิงต้องใส่ผ้าถุง ผู้ชายใส่ขาสั้นเข้าได้ตามปกติแจร้
วัดพระแก้วเชียงราย วัดพระสิงห์ วัดมิ่งเมือง วัดมุงเมือง ผู้ชายขาสั้นก้อเข้าได้จย้า
เที่ยววัดในเมืองก่อน ด้วยความเร่งรีบ แต่ก็ทันแสงเย็น
วัดพระสิงห์ มุมถ่ายรูปทางศิลปกรรมเยอะนะ ถ้าคนชื่นชอบศิลปกรรมน่าจะชอบ เขาสร้างมาดี สอดคล้องกับมุมของแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถไปถ่ายได้ทั้งตอนเย็นและตอนเช้าเลย
มารู้ตอนหลังว่าวัดพระสิงห์ เป็นผลงานการออกแบบของ อ.ถวัลย์ ดัชนี มิน่าๆ
วัดพระสิงห์ เชียงราย
วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย
ไปเจอพระสงฆ์ทำวัตรเย็นออกมาพอดี ทุกวัดเลยแหะ
เจอวัดสุดท้าย วัดมุงเมือง ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นวัดมิ่งเมือง พระสงฆ์ทำวัตรเย็น แล้ว เณรมีเก็บเสื่อ มีพระสงฆ์กวาดอุโบสถ
ด้วยความเร่งรีบ เพราะว่า จะต้องไปกินข้าว แล้วไปดูเพลงที่หอนาฬิกาตอนหนึ่งทุ่ม เลยไม่ทันเข้าไปในอุโบสถ ไม่ไปก็ได้ว่ะ
( วัดพระแก้ว เปิดทุกวัน 06.00-19.00 )
( วัดพระสิงห์ เปิดทุกวัน 06.00-18.30 )
วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย
* Tasty Beef restaurant ปิดสามโมง ( ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม 07.00-15.00 ) เลยไม่ได้เดินไป
* เลยคิดว่าจะไปร้านพอใจ ( ร้านพอใจ ข้าวซอยไก่ เปิดทุกวัน 07.00-17.00 ) พอเดินไปถึงปรากฏว่าปิดแล้ว
* จะถ่อไป น้ำเงี้ยวป้าสุข ก็ดูไกลไปนิด เด๋วกลับมาดูไฟที่หอนาฬิกาไม่ทัน
สุดท้ายเดินไปกินข้าวต้มดีกว่า
ผัดมะเขือเสวย
ข้าวต้ม จ เจริญชัย ( ข้าวต้ม จ เจริญชัย 16.00 - 23.00 )
สั่งไก่สับเลิศรส กับ ผัดมะเขือเสวย ไป
เห็นในเมนูบอก ว่า ไก่สับ นี่ customize ขนาดตามจำนวนคน ราคาบนเมนูให้เป็น range มา
เลยบอกเขาว่า เอาชุดเล็ก เพราะมาคนเดียว เดี๋ยวกินไม่หมด
ไก่สับเลิศรสชุดเล็ก + ผัดมะเขือเสวย + ข้าวต้ม + น้ำเปล่า 135 THB
เขามีอีกอันที่อยากลองคือ เต้าหู้หมูแดงฮ่องเต้ แต่มันดูเยอะไปละ เลยไม่ได้ลอง
ภายหลังรู้ว่า แผนกินข้าวเย็นไม่ผิด เกิดจากความงงของข้าพเจ้าเอง ตอนแรกก้อวางว่าจะไปกินข้าวต้ม จ เจริญชัยอยู่แล้ว
หลังกินข้าวเย็น เห็นว่ายังพอมีเวลา เลยคิดว่าจะย้อนกลับไปถ่ายรูป วัดมุงเมือง ที่ตอนนั้นคิดว่าเป็นวัดมิ่งเมือง
ดูจากแผนที่ google map บนมือถือ พบว่า พาไปอีกวัดนึง ซึ่งคราวนี้คือวัด มิ่งเมือง อันที่ถูกต้อง
แผนที่ google map ที่พิมพ์ออกมานี่ พิมพ์ชื่อ วัดมุงเมือง ตัวใหญ่ เลาเลยนึกว่าเลาปักหมุดไว้ จริงๆ เป็น landmark บนแผนที่จย้า
ไปถึงวัดมิ่งเมืองปรากฏว่า ประตูวัดปิดแล้ว แต่ดูจากข้างนอกนี่มีความสวยงามเหมือนกันนะ เลยคิดว่า อาจจะมาตอนเช้าวันพรุ่งนี้ เพราะว่าวัดร่องขุ่น เปิด 08.00 แต่เลาตื่นมากินข้าวเช้าตอน 06.00 น่าจะมีเวลาโต๋เต๋ในเมืองก่อนนั่งรถไปวัดร่องขุ่นประมาณ 1 ชั่วโมง
19.00 ไม่มีโชว์ดนตรี
หอนาฬิกา
หอนาฬิกาเชียงราย จะตีบอกเวลา เวลา 19.00, 20.00, 21.00 เลาวางไว้ว่าจะไปรอบแรก คือ รอบหนึ่งทุ่ม เพราะจะไปกินบัวลอยมือถือ กับ เดินไนท์บาซ่าร์ ต่อ
เหลือเวลาอีก 15 นาทีก็จะถึงหนึ่งทุ่ม แต่เข้าโรงแรมเชียงรายไปก่อน เพราะมีความรู้สึกตะหงิดๆ กับป้ายสีแดงที่แปะตรงหอนาฬิกาที่บอกว่า ไฟซ่อม ขออภัย กับเห็นคนปีนๆ ตรงหอนาฬิกา ตอนกลางวัน
ขนาดไป Google ดูว่า เขามีประกาศจากทางราชการว่าไม่มีโชว์ดนตรีไหม ตอนอยู่ในโรงแรม ปรากฎว่า หาไม่เจอ ไม่มีเวปไหนบอก
หลังจากนั้นจะทุ่มนึงและ ออกมาดูดนตรีที่หอนาฬิกา เห็นคนอยู่ข้างในหอนาฬิกาด้วยนะ เขาจะควบคุมแบบ manual ให้มีคนตรีไหมนะ ในใจหวังนิดๆ
มีนักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งขาตั้งรอถ่ายรูปเหมือนกันแหะ มีฝรั่งต่างชาติมารอดูการแสดงไฟ ที่หอนาฬิกา
ต่างกับเมื่อตอนกลางวัน ตอนเย็น ที่ข้าพเจ้าผ่านมาที่หอนาฬิกา ที่มีแต่ข้าพเจ้าเท่านั้นที่สนใจถ่ายรูป คนทั่วไปเขาก้อผ่านไปผ่านมาเฉยๆ
19.00 นาฬิกาตีบอกเวลา
หลังจากนั้นทุกอย่างเงียบสงบ
เงียบสงบสักพัก นักท่องเที่ยวฝรั่งที่มารอชมดนตรีของหอนาฬิกาปรบมือ กับร้องวู้ว เหมือนกับการร้องก่อนการแสดง
แต่ปรากฎว่า ก็ยังเงียบอยู่ดี ไฟก็เป็นสีเหลืองปกติ ไม่ได้เปลี่ยนสีอะไร
หอนาฬิกาไฟไม่มีดนตรีจย้า
หอนาฬิกาตอนเช้ามืดจย้า
บัวลอยมือถือ ที่ Night Bazaar
จากหอนาฬิกาเดินไป Night Bazaar นับว่าไม่ไกล เลาเองก็เดินตามฝรั่งกลุ่มที่แห้วจากการดูไฟที่หอนาฬิกาไปทางนั้นเหมือนกัน
แต่เลาจะไปลองบัวลอยมือถือที่อยู่ทางเดียวกัน
พอเดินไปถึงพบว่า ไม่เพียงอยู่ทางเดียวกัน แต่บัวลอยมือถืออยู่ตรงทางเข้า Night Bazaar เลย
ป้ายบอกว่า กี่ปี ขึ้นโต๊ะเสวยพระเทพ ไปกี่ครั้ง พระเทพน่าจะทรงโปรดของหวาน
เลาลอง บัวลอยไอติม 25 THB บัวลอยร้อน ไอติมเย็น มีความแปลก
บัวลอยไข่เค็มก็มีนะ แต่ไม่ได้ลอง
( ร้านป้าอ้วนบัวลอยมือถือ เปิดทุกวัน 18.00-21.00 )
Night Bazaar (เชียงราย Night Bazaar เปิดทุกวัน 18.30-24.00) มีขายของกินด้วยนะ เป็นลานคล้ายๆ ลานอาหารที่มาเลเซีย แบบว่า เป็นบู้ทๆ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกภาพลานเบียร์
แต่เลากินมาแล้วเลยได้แค่เดินส่อง เห็นที่กินกันเยอะ เป็นหม้อดินต้มยำหรืออะไรสักอย่าง เป็นหม้อดินร้อนๆตั้งไฟ อ่ะ
เห็นร้านหมาล่าก้อมีนะ แถวๆนั้น
ส่วนของขายคล้ายๆ สวนลุมไนท์บาซ่า น่าจะเจาะกลุ่มฝรั่งซะส่วนมาก
มาเจอขนมแป้งข้าวเหนียวที่ซื้อลองบนดอยตลาดเช้าด้วยนะ ร้านมีแปะป้ายชื่อเรียก
ขนาดท่องมาเลายังจำไม่ได้ 555 ราคา 10 บาทเท่ากันกับบนดอย
คืนนี้เลาพักที่โรงแรมเชียงราย เลาเลือกพักที่นี่ เพราะใกล้หอนาฬิกา และดูจากรูปห้อง แต่ รูปโถงระเบียงสีขาวนี่ มีอิทธิพลให้กดจองมาก
นี่จองโรงแรมเชียงรายเพราะรูปประมาณนี้เลยนะเนี่ย
ห้องภายในโรงแรมเชียงรายจย้ะ นอนคนเดียวทำไมมีหมอนสองใบ TT
โรงแรมเชียงรายไม่มีอาหารเช้า มี hot organic tea ให้ 2 ที่ ที่ The white kitchen ร้านอาหารของทางโรงแรมทานได้เวลา 06.30 - 22.00 แต่ตอนบ่ายวันที่เช็คอินกินแล้วกลัวนอนไม่กลับ ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเลาตื่น 06.00 แล้ว เลยไม่ได้ทาน
พอไปพักเพิ่งรู้ว่าโรงแรมเชียงรายเป็นโรงแรมเก่าแก่ มีการตั้งตู้สลับสายโทรศัพท์ในโรงแรมสมัยก่อนให้ดูด้วย
มีโรงแรมอื่นๆ ที่เล็งไว้ตอนจอง
* B2 ไม่มีอาหารเช้า อ่านในเวปมีคนบอกว่าห้องแคบไปนิส
แต่สองสาวที่ช่วยมาส่งนั่นพัก B2 นะ
B2 มีสองที่ในเชียงราย มีอันนึงใกล้ night bazaar ต้องลองหาดูว่าอันไหน
* Happy Nest ไกลจากหอนาฬิกาไปนิส
เหมาะกับคนเช่ารถ อย่างเพื่อนเลาที่มาเที่ยวเชียงราย เช่ารถ เก็บสัมภาระไว้ในรถ และเดินทางไกลได้
โรงแรมตกแต่งได้อารมณ์แบบฝรั่งน่าจะชอบ เป็น hostel ค่าที่พักถูก
มีห้องแบบสามคน ซึ่งเพื่อนเลาที่ไปก็ไปสามคนพอดีเลยนอนห้องนึง
จริงๆ พัก hostel เป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน กับการพบเพื่อนใหม่ แล้วไปเที่ยวด้วยกัน
แต่ plan เลาคือไปดอยแม่สลองคืนนึง และ พักที่ตัวเมืองเชียงรายคืนนึง
plan ไว้ว่าจะเที่ยวในเมืองอะไรบ้างแล้วค่อนข้างจะชัดเจน
ถ้าเลาไม่นอนที่ดอย พักที่ hostel สองคืน
hostel ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกับการไปตะลุยกับเพื่อนใหม่ๆ นะ
มีอีกสองที่ ที่ได้อารมณ์แบบบ้านๆ ซึ่งเป็นการดัดแปลงบ้านมาทำเป็นที่พักที่เล็งไว้ คือ
* บ้านนอนเพลิน
* บ้านรับอรุณเกสท์เฮ้าส์
โรงแรมในตัวเมืองมีเยอะ ราคาก็หลากหลาย จองไม่ยากเหมือนโรงแรมบนดอย
เลาเองจองกับ agoda แต่มันมีของ hotel.com ด้วยแหละ ตอนนั้นที่ดู
พอเข้าไปดูของ agoda ก้อจะโดน ads hotel ที่เชียงราย ตามหลอกหลอนไปทั้งบนเฟซบุ๊คทั้งที่ไหนต่อที่ไหนไปสักพักใหญ่ๆเลยหล่ะ
วันอังคาร 12 ธันวาคม
ตอนมีเรื่องให้ตัดสินใจว่า จะเช็คเอาท์ก่อน แล้วฝากกระเป๋าไว้
หรือ จะไปเที่ยวก่อน แล้วค่อยกลับมาเช็คเอาท์
ข้อดีของการไปเที่ยวก่อนแล้วค่อยกลับมา คือ อาบน้ำในห้องได้ แล้วก้อโบกแท็กซี่ไปสนามบิน ตัวหอมๆ
แต่เมื่อวานสองสาวเที่ยว ไร่ชาฉุยฟง ดอยตุง ร้านกาแฟชีวิตธรรมดา แล้วไปขึ้นเครื่องเลย
เลยตัดสินใจว่า ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้ว่ะ
อีกความคิดนึงที่เข้ามาคือ ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม
พอเที่ยวเสร็จเรียกแท็กซี่จาก วัดร่องขุ่น หรือ สิงห์ปาร์ค ไปสนามบินเลย
แต่ขอให้เขาแวะเอาของที่โรงแรม
แต่แพลนนี้พับไป เพราะว่า อยากแวะกินข้าวในตัวเมืองก่อน มีร้านอาหารที่ยังไม่ได้ลอง
ฝากกระเป๋าที่โรงแรมเชียงราย เขามีเบอร์ป้ายให้ด้วยนะ เหมือนบู้ทรับฝากกระเป๋าตามห้างเบย
วิวตอนเช้า ไฟเปลี่ยนสีที่หอนาฬิกา
เนื่องจากโรงแรมเชียงรายอยู่ใกล้หอนาฬิกา เลาเดินจะไปกินอาหารเช้าก้อต้องผ่านหอนาฬิกา
ปรากฏว่า ไฟที่หอนาฬิกาเปลี่ยนสีแจร้ !!
เปลี่ยนสีเหมือนตอนโชว์เบย แค่ไม่มีเสียงดนตรี
นับว่าโชคดี จากที่แห้วมาเมื่อคืน แต่ได้ดูไฟตอนเช้าแทน
เลยได้มุมไฟที่หอนาฬิกา ตอนพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ สวยอีกแบบ
06.00 ไข่กระทะ
กาแฟรถเหลือง เชียงราย ( Yellow Truck Coffee 06.00 -12.00 )
ไปถึง 6 โมง เจอเขาตั้งร้านพอดี
สั่งไข่กระทะ + ขนมปัง 40 THB
ปาท่องโก๋ ตัวละ 2 THB
กาแฟโบราณ 15 THB
เขามีกาแฟสดด้วยนะ แต่เลากินกาแฟโบราณ
ว่าจะลอง ปั้นเปา ซาละเปา ที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วยนะ ชิ้นละ 10 บาท
(ปั้นเปาซาละเปา 08.00-21.00) แต่ดันอิ่มซะก่อน
ก่อนไปกินไข่กะทะ เจอยายเดินเร่ขายพวงมาลัยชักชวนให้ซื้อพวงมาลัย พวงละ 10 บาท มองๆว่าซื้อถวายพระที่บิณฑบาต
แต่คิดว่า พระสงฆ์ น่าจะอยากได้อาหารเช้ามากกว่า พวงมาลัย เลยเอาพวงมาลัยไปถวายพระพุทธรูปที่วัดมิ่งเมืองดีกว่า
ตอนนั่งกินไข่กะทะ เจอยายคนเดิมเข้ามาขาย เลยบอกว่าซื้อแล้ว แล้วชี้ให้ดู ยายเข้ามากอด บอกว่า อุดหนุนยายแล้ว
ก่อนไปวัดมิ่งเมือง เห็นเมฆสวยแจร้
วกกลับหอนาฬิกา ถ่ายเมฆก่อน
เชียงรายยามเช้า
วัดมิ่งเมือง
เมฆวันนี้สวยดี แวะถ่ายวัดมิ่งเมือง เดินเข้าไปในพระอุโบสถ เขาให้จุดธูปเทียนด้านนอก เลยแขวนพวงมาลัยที่ซื้อกับยายเมื่อเช้าให้กับพระด้านนอก
( วัดมิ่งเมือง เปิดทุกวัน 06.00-19.00 )
วัดมิ่งเมือง จังหวัดเชียงราย
เพราะเมื่อวานเล็งพระอุโบสถวัดพระสิงห์ไว้ เนื่องจากตอนเย็นมันย้อนแสง ต้องมาตอนเช้าถึงไม่ย้อนแสง เลยมาตอนเช้าอีกที
แต่ตอนเช้าจำผิดนึกว่าอุโบสถที่ถ่ายย้อนแสงเป็นวัดพระแก้ว เลยไปวัดพระแก้วด้วย แล้วก้อ วัดพระสิงห์ด้วย
วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย
วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย
หมาที่เชียงรายตัวใหญ่นะ หมาที่วัดพระแก้วที่เชียงรายก็ตัวใหญ่
หลังจากถ่ายสามวัดเสร็จก็ไปขนส่งเก่า เพราะว่าจะนั่งรถเมล์ไปวัดร่องขุ่น
ก่อนไปขนส่งเชียงราย ผ่านโบสถ์ จริงๆโบสถ์นี้เห็นตั้งแต่เดินไปไนท์บาซ่าเมื่อคืน เห็นสวยดี ตอนเช้านี้ผ่านเลยถ่ายซักหน่อย
ว่าจะแวะถ่ายหมาอาบแดดระหว่างทาง แสงสวยดีนะ แต่กลัวไม่ทัน ไปดีกว่า
สถานีขนส่งเชียงราย(เก่า)
มาข้าไป 5 นาที เพราะมัวแต่ไปละเมียดกับการถ่ายวัดยามเช้า กับ ถ่ายหอนาฬิกาที่มีเมฆสวย
รถมีเป็นรอบ 09.00 ตอนนี้ 09.05 ถามเจ้าหน้าที่ที่ information เขาบอกรอบต่อไป 10.00 ต้องรอเกือบชั่วโมง
ในข้อมูลที่หามา ไม่เห็นบอกว่ารถออกเป็นรอบ เลยไม่ได้ระวังจุดนี้
ไม่รอดีกว่า เลยต้องโบกแท็กซี่มิเตอร์จากแถวๆขนส่งไป
เลยต้องจ่ายค่าแท็กซี่จากขนส่งไปวัดร่องขุ่น 130 บาท แทนที่จะจ่ายค่ารถเมล์ 20 บาท
สถานีขนส่งเชียงราย(เก่า) - วัดร่องขุ่น Drive 14 km 18 minutes
White Temple วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย
ฉันดั้นด้นมาที่นี่เพื่อรูป
วัดร่องขุ่นไม่เสียค่าเข้า เวลาเดินให้เดินทางเดียวห้ามเดินย้อนมา ขนาดเข้าไปชมห้องแสดงภาพด้วยแล้ว ภายในห้องแสดงภาพมีภาพ จักรวาล ของอาจารย์เฉลิมชัย ที่อาจารย์ของอาจารย์ให้คะแนนนิดเดียว เพราะ ไม่มีความหมายทางศิลปะ มาให้ชมด้วย ผลงานบางชิ้นเลาเคยเห็นมีคนยื้มเอาไปวางตามที่ต่างๆ เช่น MOCA ในกรุงเทพฯ
ร้านขายที่ระลึกขายภาพพิมพ์รูปวาดของอาจารย์ รูปใหญ่ ราคา 2,000 บาท รูปราคาหลักร้อยก็มี
เดินดูวัดร่องขุ่น ใช้เวลาน้อยกว่าที่คิดไว้
เลยคิดว่าแวะไปไร่บุญรอดด้วยดีกว่า เพราะว่าอยู่ใกล้กัน
พอออกมาจากวัดร่องขุ่น มีแท็กซี่คันนึง ติดป้ายว่างจอดอยู่แต่พอเดินไปดูคนขับไม่มี
เดินออกไปถนนใหญ่แท็กซี่ก้อไม่ค่อยมี แถมที่มีก็มีคนนั่งแล้วอีก
เลยลองเปิด app grap taxi จากที่ได้รับ notification promotion HAPPYDEC 3 วัน ลด 60 บาท ตั้งแต่เช้าวันนี้
แต่พอเปิดปุ๊ป app มันบอกว่า cannot redeem มารู้ทีหลังว่า ใช้ได้เฉพาะในกทม.
grab taxi มันขึ้นค่ารถจากวัดร่องขุ่นไปไร่บุญรอด 160 บาท แพงไปจย้า ระยะทางแค่ 6 km เท่านั้น
เลยพึ่ง call center taxi เชียงราย
เขาบอกรอประมาณ 15 นาที
หลังจาก call ได้ไม่นาน มีแท็กซี่มิเตอร์คันนึงมาส่งฝรั่งหน้าวัดร่องขุ่นพอดี
เลยโทรไปยกเลิก call center ดีเลยไม่ต้องเสียค่าเรียก 20 บาท
ค่ารถแท็กซี่จากวัดร่องขุ่นไปไร่บุญรอดประมาณ 70-90 บาท
วัดร่องขุ่น - ไร่บุญรอด Drive 6 km 7 minutes
ไร่บุญรอด จังหวัดเชียงราย
อีกทั้งต้องรอรอบ 13.30 เพราะรอบ 12.30 มันเต็มแล้ว เลยไม่เอาดีกว่า เด๋วขึ้นเครื่องกลับไม่ทัน
มีจักรยานให้เช่าด้วยนะ แต่ไม่ได้ถามราคามา
นั่งชิลดีกว่าแจ้
ซื้อนมสดจากไร่ 60 บาท จริงๆ พอสั่งเสร็จเพิ่งเหลือบไปเห็นเสาวรส 50 บาทด้วยนะ แต่ช่างแม่ม สั่งไปแล้ว
ไปนั่งตรงที่นั่งร้านกาแฟตรงที่มองไปเห็นตรงโลโก้สิงห์ปาร์ค เผื่อว่าจะรอตอนไม่มีคน จะได้วิ่งไปถ่ายรูป
แต่ปรากฎว่า คนที่ถ่ายชุดเก่า ออกไป คนที่ถ่ายชุดใหม่เข้ามาตลอด ไม่มีโอกาสเบยแจร้
เต็มที่เอาคนออกได้แค่นี้ photoshop ก้อขี้เกียจทำ 555
ถ้ามีจะได้เรียกต่อเข้าเมือง
บังเอิญตอนนั้นไม่มีซักคัน
ไม่กล้าโทรไป call center taxi ด้วยเนื่องจากเพิ่งเทไปตอนจากวัดร่องขุ่นมานี่
grab taxi แม่มเอา 200 บาท ไอสัส
แต่สุดท้าย เหลือบไปถนนใหญ่ เห็นสองแถวสีฟ้า
เลยคิดว่าน่าจะโบกเข้าเมืองได้ เลยไปรอโบกข้างหน้า
สองแถวเขาคิด 50 บาท เลยตกลง
ตอนนั้นสองแถวส่งสาว 3 คนมาไร่สิงห์พอดี 3 คนทำไมเหมา 100 เดียววะ
ไร่บุญรอด - ตัวเมืองเชียงราย hotel, Drive 12 km, 19 minutes
บนรถเจอฝรั่งชาติไหนไม่รู้ พูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เป็นพ่อแม่วัยรุ่นกับเด็กอีกสองคน เขาเอารถเข็นเด็กขึ้นสองแถวด้วย
เขาชวนคุยว่า White Temple สวยมาก
แล้วถามว่าเลาไป Blue Temple หรือยัง เลาบอกว่ายัง เขาบอกเขาก้อยังไม่ได้ไป
เขาถามเลาว่า เลาจะไปไหน เลาบอกว่าเราไป หอนาฬิกา
แล้วเลาก็ถามว่าเขาไปไหน เขาบอกว่า เขาจะไปห้างใหญ่ๆ ที่มี McDonald ร้านค้าอะไรพวกนั้น
แต่เขาบอกว่าไม่รู้คนขับเข้าใจรึเปล่า
ถามชื่อห้างเขาบอกจำไม่ได้ว่าอะไร festival ซักอย่าง
เลยเดาว่าเป็นเซ็นทรัล
เลาบอกเขาว่างั้นเลาบอกคนขับให้
สองแถวผ่านพิพิธภัณฑ์อูบคำด้วยนะ แต่เนื่องจากไม่มีเวลาแล้ว ถ้าแวะอาจจะไปขึ้นเครื่องบินไม่ทัน
พี่สองแถวจอดให้ตรงสี่แยก เขาบอกว่า สามารถเดินไปหอนาฬิกาได้ หรือ ถ้าท่ารถสองแถวก็เลี้ยวซ้าย
เลาบอกลุงคนขับให้ฝรั่งว่าฝรั่งจะไปห้างเซ็นทรัล festival ซึ่งโชคดีนะ เพราะตอนแรกคนขับนึกว่าฝรั่งจะไปวัดสีฟ้า ( วัดร่องเสือเต้น )
หลังจากนั้นก็ลากันออกมา
เดินไปดูพบว่า มีท่ารถสองแถว อยู่หน้าเทศบาล
หอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย ตอนกลางวัน สังเกต ป้ายแดงๆ บอกว่าตอนนี้ซ่อมอยู่
แวะกินก่อน
ร้านนี้มีเชลล์ชวนชิมด้วยนะ ชามละ 80-100 บาท เลากิน 80 บาทพอเอาจานเล็ก
ตอนแรกสั่ง ข้าวแกงกะหรี่เอ็นวัว คนจดรายการอาหารถามเอาเกาเหลาด้วยไหม
งงดิ ถามไปว่าข้าวแกงกะหรี่เอ็นวัว ไม่มีเนื้อหรอ คนจดบอกว่า ร้านขายเนื้อวัว
กินก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเนื้อวัวก็ได้ว่ะ
ร้านแด๊งแดงนะเลาว่า มีรูปถ่ายเต็มผนัง มีถ่ายกับ ทักษิณ ตอนมากินที่ร้าน
แล้วก็น่าจะใครซักคนในร้านใส่เสื้อแดงถ่ายกับป้าย ราชประสงค์
ขากลับผ่านร้านปั้นเปาด้วยแหะ แต่กินข้าวกลางวันอิ่มแล้ว เลยอดใจไว้ไม่ได้ลอง
ผ่านร้านสุจินต์หมูยอ เลยซื้อ รส original เล็ก 30 THB มา 2 อัน เป็นของฝากกลับกรุงเทพ
ถ้ารส original ใหญ่ 40 THB
มีรสพริกไทย ด้วย เล็ก 30 บาท ใหญ่ 40 บาท เหมือนกัน แต่ขอลองแบบ original ก่อน
ภายหลังเลาลองเดินๆที่สนามบินเชียงราย มีสุจินต์หมูยอขาย เหมือนกัน แต่อันเล็ก 35 บาท
สนามบินเชียงรายแล้ว
ประมาณบ่ายโมงเลาก้อออกจากตัวเมืองเชียงรายแล้ว ไปทันสนามบินเชียงรายเริ่ม checkin 13.30 พอดี
แท็กซี่บอกว่าเคยมีผัวเมียทะเลาะกันก่อนขึ้นรถ แล้วต้องมาส่งให้ทัน เลยรีบซิ่งมา
ซึ่งถ้ามาสนามบินก็ต้องเผื่อเวลาไว้นิดนึง เพราะ เลายังต้องต่อคิวสแกนกระเป๋าก่อนเข้าสนามบิน และตอนเอาตั๋วก็ใช้เวลาต่อคิวเหมือนกัน
รถแท็กซี่จากหอนาฬิกา ไปสนามบินเชียงราย 90 THB แต่คนขับคิด 100 THB เอาว่ะ ให้ไปได้
โรงแรมเชียงราย - สนามบินเชียงราย Drive 10 km. 17 minutes
ที่สนามบินมีของขายตรงชั้น 1 มีร้านข้าวซอย ร้านกาแฟดอยตุง
แล้วก้อตั๋วเครื่องบินก็ไปรับจากบู้ทของสายการบินที่อยู่ชั้น 1 ได้เลย
boarding time ของสนามบินนี่เป็น manual ไม่ได้ใช้จอมอนิเตอร์ เป็นกระดาษเขียนแปะไว้ เที่ยวบินไหน กี่โมง แต่อันบอก gate ของสนามบินนี่เป็นจอนะ
ถ้าจะเข้าไปข้างใน ที่ทางเข้าอยู่ชั้น 1 นั่นแหละ ต้องแสดง boarding pass และ บัตรประชาชน
ตรงที่รอเครื่องบิน ชั้นบน ทางออกอยู่โซนเดียวกันหมด ที่นั่งรอก็เห็นทางออกหมดทุกอัน
ที่นั่งโซนข้างหลังมีปลั้กให้ชาร์จโทรศัพท์มือถือด้วยนะ
เนื่องจากเรา checkin เข้ามาเร็ว gate ไหนยังไม่ขึ้นจอเลย
เดินไปถามเจ้าหน้าที่ตรง boarding เขาบอกว่า เดี๋ยวมีเจ้าหน้าที่ของ vietjet มา
รอสักพักก้อมีมาจริงๆ เอา popup แอร์สายการบิน vietjet มาตั้งเลยทีเดียว
ตอนรอเครื่องบิน มีประกาศของสนามบินเป็นระยะๆ เสียงเหน่อดีจัง
โปรดทราบๆ หมี๋ผู้พบเห็นถึงของฝาก ภายในมีแคบหมู ผู้ที่เป็นเจ้าของกรุณาติดต่อรับสัมภาระของท่านด่วนค่ะ
boarding 14.55 เครื่องบินออก 15.15 กลับถึงกทม โดยสวัสดิภาพ
ตอนแอร์โฮสเตส พูดภาษาอังกฤษ ตอนประกาศ บอกว่า Suvarnabhumi Airport กรุงเทพฯ เอ๊ย ... Bangkok หลังจากนั้นมีเสียงหลุดหัวเราะมาเป็นครั้งคราว
ลงเครื่องบิน กลับมา ทางเดิมกับตอนขึ้นเครื่องบิน ร้านค้าเปิดหมดแล้ว
เลายังจำตู้ ATM KBank ในสนามบิน ที่กดตังค์ตอนขามาได้
ต่อรถ airport link แล้วก้อ BTS
เดินกลับบ้านบนทางที่คุ้นเคย นี่ขนาดไปแค่สามวัน
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ...
และอื่นๆ
จริงๆ มีอีกสามที่ในเมืองที่เผื่อไว้ว่าจะไป ถ้ามีเวลา เพราะว่าค่อนข้างไกลในเมือง แต่ไม่ได้ไป ในทริปนี้คือ
* วัดพระธาตุจอมทอง
หอนาฬิกา - วัดพระธาตุจอมทอง 1.6 km เดิน 21 นาที
( วัดพระธาตุจอมทอง เปิดทุกวัน 06.00-19.00 )
* พิพิธภัณฑ์อูบคำ
หอนาฬิกา - Oub Kham Museum 1.9 km เดิน 24 นาที
( Oub Kham Museum เปิดทุกวัน 08.00-17.00 ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนไทย 200 บาท )
* ศาลารอยพระบาท พระบาทสมเด็จพระพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย อันนี้ถ้ามีรถคงไปได้ เพราะค่อนข้างไกลจากหอนาฬิกา เดินไม่ไหว
มีอีกสามที่ในเมืองที่ปักไว้ แต่ไม่ได้ไป เพราะ เลาอยู่ในเมืองวันจันทร์-วันอังคาร
* หอศิลป์ไตยวน
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย เปิด พุธ - อาทิตย์ 10.00-17.00
* ถนนคนม่วน
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย เปิดเฉพาะคืนวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 23.30 น.
* ถนนคนเดิน
อยู่ในตัวเมืองเชียงราย เปิดเฉพาะคืนวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.- 24.00 น.
สรุปค่าใช้จ่าย
* ค่าเครื่องบินไปกลับเชียงราย โปร 0 บาท แต่พอรวมภาษีและค่าอื่นๆแล้ว 529.56 บาท
* ที่พัก ภูเมฆตะวัน 1696.81 บาท จองผ่าน agoda
* ที่พัก เชียงราย hotel 1 คืน Standard Room 585.40 บาท จองผ่าน agoda
วันอาทิตย์ 10 ธันวาคม
* แท็กซี่จากบ้านไปสนามบินสุวรรณภูมิ 285 THB แอบแพง แต่มันเช้า รถไฟฟ้ากับแอร์พอร์ตลิงก์ยังไม่เปิด ไม่มีทางเลือก
* แท็กซี่จากสนามบินไปบ้านดำ ค่าเรียกจากสนามบิน 30 THB + ตามมิเตอร์อีก 110 THB
* อาหารเช้า ร้านกาแฟนางแล แซนด์วิชทูน่า 120-130 THB, ค่ากาแฟ คาปูชิโน่เย็น 73 THB
* บ้านดำ ค่าเข้า 80 บาท
* ค่ารถเมล์ จาก บ้านดำ ไป แม่จัน 20 บาท
* อาหารกลางวัน ข้าวไข่เจียวฟู ร้านตามสั่งที่แม่จัน 40 บาท, ค่าน้ำกดเอง 5 บาท
* ค่ารถสองแถวสีเขียว จากแม่จันไปกิ่วสะไตไปแม่สลอง 60 บาท
* อาหารเย็น บะหมี่เกี้ยวยูนนาน เส้นทำเอง บนแม่สลอง 40 THB น้ำกดฟรี
* โกโก้เย็น ที่ ภูเมฆตะวันรีสอร์ต 60 บาท
รวมวันแรก 935 บาท
วันจันทร์ 11 ธันวาคม
* ข้าวเช้าที่ภูเมฆตะวันรีสอร์ต ฟรี เพราะ รวมกับค่าที่พักแล้ว
* ค่าขนมข้าวเหนียวแผ่นๆ ที่ลองกินตลาดเช้าบนดอยแม่สลอง 10 บาท
* ค่าเข้าชมสวนแม่ฟ้าหลวง 90 บาท
* อาหารเย็น ข้าวต้ม จ เจริญชัย ข้าวต้ม+มะเขือเสวย+ไก่+น้ำ 135 บาท
* บัวลอยมือถือ ที่ไนท์บาซ่า 25 บาท
รวมวันที่สอง 260 บาท
วันอังคาร 12 ธันวาคม
* อาหารเช้า ที่ Yellow Truck ไข่กะทะ + ขนมปัง 40 บาท + ปาท่องโก๋หนึ่งตัว 2 บาท + กาแฟโบราณ 15 บาท
* ค่า taxi จาก ขนส่งเชียงราย ไป วัดร่องขุ่น 130 บาท
* ค่า taxi จาก วัดร่องขุ่น ไป ไร่บุญรอด 70-90 บาท
* ค่านมสดที่ไร่บุญรอด 60 บาท
* ค่าสองแถวสีฟ้า จาก ไร่บุญรอด เข้าตัวเมืองเชียงราย 50 บาท
* อาหารกลางวัน ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม 80 บาท น้ำเปล่าฟรี
* ค่าของฝาก สุจินต์หมูยอ รส original เล็ก 30 x 2 = 60 บาท
* ค่า taxi จาก หอนาฬิกา ไปสนามบินเชียงราย 100 บาท
รวมวันที่สาม 628 บาท
รวมทั้งทริปประมาณ 4634.77 บาท
ตอนทั้งหมดในซีรีส์นี้
ตอนแรก : วางแผน
ตอนสอง : บ้านดำ
ตอนสาม : โบกรถ
ตอนสี่ : บะหมี่ สี่โมงเย็น
ตอนห้า : ผิดแผน
ตอนหก : ดึกแล้ว
ตอนเจ็ด : วัดร่องขุ่นใส่กางเกงขาสั้นไปได้ไหม
ตอนแปด : ทริปลมเพ ลมพัด
ความคิดเห็น
รูปก็ถ่ายสวยมาก
อ่านแล้วเพลินมาก
เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับคนอยากไปเที่ยวแบบแบ็คแพ็คมากๆ