เนื้อหาเยอะมากกกกเหมือนกัน ค่อยๆอ่านนะ ไม่ต้องรีบร้อน
ผ่างๆๆ ท่านสามารถรับชมเอนทรีนี้ผ่าน url http://tinyurl.com/JimThompson ได้ด้วย
วันนี้ออกไปตั้งแต่เที่ยง นั่งสาย 547 จากหน้าบ้าน ไปหาอะไรกินที่ พารากอน
แต่ดันลืมว่าเขามี ฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ที่สนามศุภฯ
คนเต็มครับ - -
เลยแวะไป Internet Expo ก่อน
มีสัมมนา เรื่อง IPv6 ของ NECTEC แล้วก็มีเวปต่างๆมาออกบู้ท
แล้วก็ออกมากิน OOTOYA ตอนบ่ายสอง
รู้สึกว่า OOTOYA kitchen ข้าวน้อยกว่า แล้วก็เติมไม่ได้ด้วย
แต่เป็นราคา NET ป่ะ ก็โอเคแล่ะๆ
นึกขึ้นได้ว่า มีที่เที่ยว ที่นึงอยู่ใกล้สยาม นั่นคือ
Jim Thompson House & Museum
อยู่ตรงข้าม สนามศุภฯ เลยล่ะ
อยู่ใน ซอย เกษมสันต์ 2 เอ้า นี่แผนที่ แล้วก็ประวัตินิดหน่อย
ค่าเข้าชม 100 บาท ถ้าเป็นนักเรียน เหลือ 50 บาท ( ต้องแสดงบัตรนักเรียน )
ยังดีที่เป็นนักเรียนอยู่นะเนี่ย ฮาๆ
เขามีให้เลือกไกด์ ว่า เป็นภาษาไทย หรือว่า เป็นภาษาอังกฤษ
เราเลือก ภาษาไทยไปแหะ
หลังจากเดินเข้าไป นั่งรอเขาเรียก
สักพักเขาก็เรียกแล้วล่ะ เลยถามไกด์ด้วยความตกใจว่า " คนเดียวหรอครับ "
คือ ในนั้น มันมีแต่ต่างชาติ อ่ะนะ มองไปมองมาแทบจะไม่มีคนไทยเลย
ยังดีที่เขาบอกว่า มี 6 คน
ค่อยยังชั่วหน่อย
( ระหว่างที่ไกด์ พาชมไปเรื่อยๆ เราก็รู้ว่า นอกจาก ไทย กับ อังกฤษ แล้ว ยังมี session ที่ไกด์อธิบายเป็น ภาษาอื่นอีกเพียบ เช่น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เป็นต้น )
เราฝากกระเป๋า แล้วก็ถอดรองเท้า เพื่อเตรียมขึ้นไปบนบ้าน
กล้องถ่ายรูป เขาบอกว่า เอาติดไปได้ แต่ว่า ไม่อนุญาตให้ถ่ายบนบ้าน ถ่ายได้เฉพาะข้างล่าง
ด้านหลังของที่เขาให้ฝากล็อกเกอร์กับรองเท้า
บนบ้านนั้นก็มีห้องต่างๆ
ห้อง มีทั้ง สร้างแบบ สี่เหลี่ยมคางหมู ตั้ง ( กำแพงลู่ไป ด้านล่างใหญ่ ด้านบนเล็ก ) และ หงาย
มี กาไวน์ คู่หนึ่ง ที่มาจากเมืองจีน ซึ่ง มีรูข้างล่างกา เวลาเอาไวน์เข้ากา ต้องคว่ำกาลง แล้วเอาเข้าไป
แต่พอหงายมาตั้งปกติไวน์กลับไม่หกออกมา
กลองพม่า คว่ำลง ประยุกต์เป็นฐานของโคมไฟ ก็ทำได้ดีทีเดียว
ห้องน้ำ ของ ห้องแขก จริงๆต้องสร้างไว้ข้างนอกบ้าน แต่เขาสร้างไว้ในห้องนั้นเลยเพื่อความสะดวกของแขก
แต่เขาไม่เปิดให้ดู ( เขาบอกว่า ตอนคุณจิมเปิดบ้านเอง ก็ไม่ได้เปิดให้ดูเหมือนกัน )
แอบสังเกต กุญแจ ล็อกของห้องน้ำ และของห้องแขก
ยังอนุรักษ์ไว้เป็นของโบราณ คือ เป็นไม้ ขัดไว้ เท่านั้น
มีคอมฟอร์ต ของผู้ชาย ด้วย เป็นโถฉี่เซรามิก รูปแมว เปิดหัวได้ อยู่ในห้องนอนแขก
แล้วไปเจอ กระโถนฉี่ ของผู้หญิงอันเล็ก รูปกบ อยู่ตรงระเบียง ห้องนอน
คนออกแบบ โถฉี่สองอันนี้ เขาทำเข้าท่าดีเหมือนกันนะ ลงล็อกพอดีเลย ฮาๆ
ประตูห้องนอน เขาแนวมากนะ เป็นประตูโรงรับจำนำ
ด้วยการที่เป็นคนดัง เวลาไปบรรยายที่ไหน หรือ คนเขารู้ว่า เก็บสะสมของเก่า ก็จะมีคนให้ของมาประดับบ้านเสมอ เช่น พระพุทธรูป หรือ แผ่นภาพเขียนจากวัดในต่างจังหวัด
ผมชอบ พระพุทธรูป ที่ห้องทำงานเขานะ ดูแล้วสบายใจดี
บนบ้านก็มีประมาณนี้แหละ ใครอยากได้แบบละเอียดๆ ก็ไปเยี่ยมชมกันเอาเอง
ลงมาข้างล่างดีกว่า
แผ่นประตู
ใต้ถุนบ้าน
บริเวณหน้าบ้าน เขามีกระจกบานใหญ่ อยู่ทางซ้าย พื้นเป็นกระเบื้องลายหมากรุก
โคมไฟ สีส้ม, บ้านไม้, พื้นกระเบื้อง ช่างเข้ากันดีจริง
ไปดูบ้านคนอื่น ทำให้เรามีไอเดีย ในการแต่งบ้านมากขึ้นจริงๆ นะ
อันนี้เอาไว้พิมพ์ลายผ้า ทาสี แล้วเอาผ้ามาแปะ
เอ้า ดูชัดๆ
เห็นเขาว่า ตัวปลามันถอดออกมาได้ด้วย
ไว้พิมพ์ลายให้มันหลากหลาย
เห็นเขาว่า ตัวปลามันถอดออกมาได้ด้วย
ไว้พิมพ์ลายให้มันหลากหลาย
โต๊ะแบบจีน
ตรงกลางเป็นภาพ การค้าขายของจีนตอนใต้
กลมๆ ตรงกลางนั่นหมุนได้นะ เหมือนโต๊ะจีนไง
แต่โต๊ะนี้แปลกดี เป็น 8 เหลี่ยม ไม่ใช่วงกลม
ตรงกลางเป็นภาพ การค้าขายของจีนตอนใต้
กลมๆ ตรงกลางนั่นหมุนได้นะ เหมือนโต๊ะจีนไง
แต่โต๊ะนี้แปลกดี เป็น 8 เหลี่ยม ไม่ใช่วงกลม
พระพุทธรูปแบบทวารวดี
เรือนเล็กในสวนหลังบ้าน เรือนนี้ถ่ายรูปได้
ภายนอกเรือน
สวนหลังบ้าน
จากตรงนี้มีศาลา ที่สามารถข้ามเรือไปยังหมู่บ้านชาวมอญที่ทอผ้า ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้
จากตรงนี้มีศาลา ที่สามารถข้ามเรือไปยังหมู่บ้านชาวมอญที่ทอผ้า ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้
ทางขึ้นเป็น theme เดียวกันกับตัวบ้านเลย
ส่วนราวจับกับเสาเป็นไม้
ไอ้ซี่ๆ เป็นเหล็ก
ส่วนราวจับกับเสาเป็นไม้
ไอ้ซี่ๆ เป็นเหล็ก
ม้านั่ง
ต้นไม้ในสวนแหละ
กดเล่น
ศาลพระภูมิ ในสวนหลังบ้าน
เหมือนเป็นเรือนหลังย่อมๆ เลย
เหมือนเป็นเรือนหลังย่อมๆ เลย
สวนหลังบ้านอีกมุมหนึ่ง
นายแบบ กับ นางแบบ จำเป็น
ฮาๆ ถ่ายติดมาพอดี
ตรงนี้เป็นบริเวณหน้าบ้าน ตรงเข้าไปเป็นสวนหน้าบ้าน
เรือนหลักอยู่ทางขวาของรูป ( ไม่ได้ถ่ายติดมา )
เรือนทางซ้ายลิบๆ นั่น แต่ก่อนเป็นเรือนคนสวน แล้วก็เรือนเล็กถัดเข้าไปข้างในอีกแต่ก่อนเป็นเรือนคนใช้
ฮาๆ ถ่ายติดมาพอดี
ตรงนี้เป็นบริเวณหน้าบ้าน ตรงเข้าไปเป็นสวนหน้าบ้าน
เรือนหลักอยู่ทางขวาของรูป ( ไม่ได้ถ่ายติดมา )
เรือนทางซ้ายลิบๆ นั่น แต่ก่อนเป็นเรือนคนสวน แล้วก็เรือนเล็กถัดเข้าไปข้างในอีกแต่ก่อนเป็นเรือนคนใช้
เอ้า เข้าไปสวนหน้าบ้านมั่ง
น้ำพุในสวนหน้าบ้าน
เข้าไปใน เรือนคนสวน ละ ตอนนี้กลายเป็นที่แสดงของ
จะเห็นว่า ติดแอร์แล้ว
ตรงหน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่ แต่ยังมีหน้าต่างไม้ที่สามารถเปิดปิดได้อยู่
ก็ดูเข้ากันดีนะ
ไฟแบบนี้ก็สวยดีนะ
ตรงหน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่ แต่ยังมีหน้าต่างไม้ที่สามารถเปิดปิดได้อยู่
ก็ดูเข้ากันดีนะ
ไฟแบบนี้ก็สวยดีนะ
ยิ่งไฟส่องแบบนี้ยิ่งสวยเลยอ่ะ
ชอบๆ ^____^
ชอบๆ ^____^
อันนี้เป็นเรือนอีกหลังละ เดิมเป็นเรือนคนใช้
มันเล็กมากๆเลยนะ
มันเล็กมากๆเลยนะ
โอ่งบัวตรงจะออกละ เห็นสวยดีเลยถ่ายมา
เอ้า ซูมๆ
ตรงจะออก เขามีร้านอาหารด้วยนะ
อีกด้านนึงเป็นร้านขายของที่ระลึก ซึ่งชั้นสอง มี
The Jim Thompson Art Center
ซึ่งตอนนี้เขาจัดเรื่องนี้อยู่
into the empty sky
by Xawery Wolski
by Xawery Wolski
คนดูแลเขาบอกว่า นิทรรศการ จะเปลี่ยนประมาณทุกๆ สามเดือน
ซึ่งคนที่ติดต่อ เอานิทรรศการมาลง คือ มูลนิธิ จิม ทอมป์ สัน
ถ่ายร้านอาหาร จากระเบียงของนิทรรศการ
art โผล่ ตั้งแต่ ระเบียงเลย
( หรือ ลืมเก็บหว่า !?)
( หรือ ลืมเก็บหว่า !?)
หน้าต่างเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู แหะ แต่สวยดี
สุดและ
อันนี้เป็นเรือนที่ด้านล่างเขาให้นั่งรอตอนแรก ก่อนไกด์จะมาพาไป
ฉายจาก ชั้นสองของระเบียงพิพิธภัณฑ์
ฉายจาก ชั้นสองของระเบียงพิพิธภัณฑ์
เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ ข้างในกันดีกว่า ...
เสื้อร้อยจากเม็ดอะไรไม่รู้แหะ
ยาวมากกกกกกก
ไม่สามารถถ่ายให้มันครบได้ เนื่องจากรำคาญ ประตูอัตโนมัติ
( มันเปิดอยู่นั่นแหละ )
ยาวมากกกกกกก
ไม่สามารถถ่ายให้มันครบได้ เนื่องจากรำคาญ ประตูอัตโนมัติ
( มันเปิดอยู่นั่นแหละ )
ชื่อผลงาน เขียนที่กำแพงเลย
ชิ้นนี้เป็นห่วงเหล็กเล็กๆ ร้อยเรียงกันเป็นสาย
ไม่รู้ว่า เขาตั้งใจหรือเปล่านะ
แต่ตอนแอร์มันลง
มันพริ้วสวยดีอ่ะ
ไม่รู้ว่า เขาตั้งใจหรือเปล่านะ
แต่ตอนแอร์มันลง
มันพริ้วสวยดีอ่ะ
เม็ดก๊วยจี๊ ?
อยู่ที่พื้น
อยู่ที่พื้น
ชาวจีนสองคน ( นายแบบ นางแบบ จำเป็นอีกละ )
เขาวานให้ถ่ายรูปคู่ให้ โดยมีหัวใจข้างหลัง เป็น background ด้วยล่ะ ^^
ออกละ
( คนในรูปอ่ะใครหว่า ? เขาดันอยู่พอดี เลยถ่ายมาเลย 55+ )
( คนในรูปอ่ะใครหว่า ? เขาดันอยู่พอดี เลยถ่ายมาเลย 55+ )
ตอนเดินออกไป ก็ถามร้านสะดวกซื้อแถวนั้น ว่า รถเมล์ไป ศูนย์สิริกิติ์ ( รู้ว่า สาย 14 ) ขึ้นตรงไหน
เขาบอกว่าราชดำริ
เลยตั้งใจจะ เดินผ่าน sky walk ไปตรงราชดำริ
ผ่านศูนย์ศิลป์กรุงเทพฯ ตรงข้ามมาบุญครอง
เห็นเขาขายของพอดี
เลยซื้อเข็มกลัดมาสองอัน แล้วก็สมุดหนึ่งเล่ม
เดี๋ยวนี้ดีแฮะ มีที่ให้วัยรุ่นเอาของมาขายด้วย
เห็นเขาบอกว่า indy in town ที่ Central world ก็มี
แต่วันนี้เดินไปแล้วไม่เห็นแหะ
เดินทะลุเข้า ศูนย์การค้าเอราวัณ ไป
ชั้นล่างบรรยากาศดีเหมือนกันนะ เล็ง Nara kitchen ไว้ด้วยล่ะ
แล้วนี่ผ่านพอดี
พระพรหมสี่หน้า
แล้วก็ไปรอที่ป้ายรถเมล์
รูปนี้ได้มาโดยบังเอิญ
พระอาทิตย์มันจะตกพอดี
ยามเย็น ที่ ราชดำริ
รถเมล์แมร่ง รอนานสาดดดดดด
รอจนมืดแล้ว
กว่าจะไปถึงที่โน่นก็ทุ่มนึง
ดีนะ ที่ Mobile Expo มันปิดสองทุ่ม
( สาย 14 รถมันเลี้ยวขวา ที่ตลาดคลองเตย ให้ลงตรงนั้นแหละ แล้วเดินเอา )
บังเอิญไม่ได้พิสวาส มือถือ อะไรไปพิเศษ ดูไปก็งั้นๆ เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก
แต่ได้
ติดฟิลม์ มือถือใหม่ 49 บาท
ซิลิโคน มือถือ 39 บาท
small talk ยี่ห้อ UFO 79 บาท ( สถานะหลังจากฟังไปสองครั้ง เสียงออกข้างเดียวไปซะแล้วตอนนี้ )
รวมๆก็โอนะ รึเปล่าวะ ?
จริงๆ มันมีงานคุณลูก ( ของเล่นเด็ก ) แล้วก็ศึกษาต่ออินเดีย ที่ศูนย์สิริกิติ์ ด้วย
แต่เหนื่อยและ วันนี้ทั้งวันเลย
นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสีลม ด้วยความเหนื่อย
เดินเข้าซอยธนาคารกรุงเทพ แล้วซื้อเค้ก something sweet กลับบ้าน 4 ชิ้น
แล้วทะลุ ช่องนนทรี ต่อรถไฟฟ้ากลับบ้าน
ช็อกโกแล็ตขาว โอริโอ แม็คคาเดเมีย แล้วไอ้ที่ซ่อนอยู่หลังสุด คือ สตอเบอรี่ชีสเค้ก
( สตอเบอรี่ชีสเค้ก เขาให้น้ำสตอเบอรี่มาราดด้วย )
ปล. ช่วงนี้กินเยอะโคด
วันก่อนไป รามา การ์เดน มา
อาหารอร่อยของหวานก็เยอะ ( ราคาป้าย 490+ )
แต่ไป conference อ่ะ เลยกินฟรี
ซัดขนมไปตรึมเลย
ดูบทความที่ไปเที่ยวอื่นๆของ dsin ได้ที่ tag ท่องเที่ยว
ความคิดเห็น