แสงแห่งศตวรรษ
ใครอยากไปดูในโรงหนัง หรือ จะซื้อแผ่นที่ uncensor มาดู
หยุดอ่านซะ เดี๋ยวรู้เรื่องก่อนแล้วไม่สนุก
เราดูเวอร์ชั่น uncensor จนจบแล้ว
อ่านในบล๊อกเขาที่เขาอธิบายความหมายแล้ว
ขอบคุณ neogravity สำหรับแผ่นนะครับ
ความเห็นส่วนตัวเรื่องการเซ็นเซอร์หนังเรื่องนี้1. บรรทัดฐานการเซ็นเซอร์ไม่เหมือนกัน
ทั้งหนังโรงไทย หนังโรงฝรั่ง หรือ ละครโทรทัศน์
1.1 ของขึ้น
ดูแล้วน่าจะเป็น "ของปลอม"
แต่กลับไม่มีการเซ็นเซอร์ "ของปลอม" ในหนังฝรั่งหลายๆเรื่อง
1.2 ไม่รู้ว่าเป็นหน่วยงานเดียวกันหรือเปล่าที่เซ็นเซอร์ โรงหนัง กับ ละครโทรทัศน์
แต่ควรเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
หมอกินเหล้า จากที่ดู หมอในเครื่องแบบไม่ได้จิบเหล้า
ทั้ง อาจารย์หมอที่เทเหล้า ก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ
เหมือนในเรื่อง สงครามนางฟ้า
พระดีดกีตาร์ โดนเซนเซอร์
แต่พระเอกข่มขืนนางเอกในละคร ฉายได้
( จริงๆ มีโอกาสเป็นไปได้ โดยอารมณ์ของตัวหนัง ที่ทำให้พระไปดีดกีตาร์ได้
จริงอยู่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะ (อ่านในความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ข้อ 11)
แต่ด้วยเหตุผลหลายๆเรื่องย่อมเป็นไปได้ และภาพที่ออกมาก็ไม่ได้น่าเกลียดถึงกับขนาดต้องเซ็นเซอร์
ตอนแรกที่ได้ยินถึงฉากนี้ เราคิดภาพไปว่า พระนั่งยกขาข้างหนึ่งขึ้นมา ดีดกีตาร์และร้องเพลงโหวกเหวก โดยไม่มีอาการสำรวม
แต่ภาพที่ออกมากลับต่างกันออกไป )
2. เป็นการช่วยสร้างกระแส โปรโมตให้คนอยากดูหนังมากขึ้น โดยเฉพาะ หนังเรื่องเต็ม หรือว่า ฉากที่ถูกตัดไป
ทำให้มีการขวนขวาย ส่งต่อ ฉากที่ตัดไปให้ดู
ซึ่งในปัจจุบัน ทำได้ไม่ยากนัก
แทนที่จะเซ็นเซอร์หนังไปเลย
น่าจะทำเป็นคำเตือนขึ้นมาระหว่างหนังฉาย
หรือ แผ่นพับให้ความรู้ เกี่ยวกับหนัง เช่นเดียวกับ ที่เราเห็นจากเรื่อง Davinci Code
ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ( ย้ำ ความเห็นส่วนตัว )1. โปสเตอร์กับชื่อเรื่องสวย ประทับใจตอนแรกคือโปสเตอร์หนัง ชื่อหนังดึงดูดให้หามาดูมาก
แต่ ในหนังไม่ได้แสดงถึงความสวยงามของโปสเตอร์และชื่อเรื่องเท่าที่ควร
2. ฉากเริ่มต้น ตั้งกล้องไว้นิ่งๆ ปล่อยแต่เสียงคนคุยกัน
เป็นทริกที่ดี ทำให้ต้องตั้งใจฟัง เสียงคนที่คุยกัน
แต่ใช้ผิดที่ผิดเวลา เพราะตรงนั้น ต้องขึ้นชื่อคนเล่นไปด้วย
ทำให้ใส่บทพูดหลักเข้าไปไม่ได้
3. ต่อจากข้อ 2 ที่สั่งคัืท เจ๋งดี
ไม่นึกว่าจะเล่นตั้งแต่เปิดเรื่องเลย
4. ฉากแีรกสุด ที่สัมภาษณ์ น่าประทับใจ ค่อยๆเปิดเผยคาแรกเตอร์ของตัวละครให้คนดูได้รู้ได้เองว่า ตัวละครเป็นอย่างไร ดำเนินในทิศทางใด
5. บรรยายภาษาอังกฤษแปลได้เจ๋งมาก โดยเฉพาะ ฉากล้างขา
แต่คำำพูดภาษาไทยมันไม่โดนใจขนาดนั้น สั้นและผ่านไปเร็วเกินไป
6. ในบล๊อกบอกว่า ใช้ฉากเดียวกันกับเรื่องเก่าๆ
แต่เราไม่เคยดูหนังของเขาเลย เลยไม่รู้สึกอะไร
7. ทริกที่ใช้คนเดิม บทเดิม แต่สถานที่เปลี่ยน
หนังมีสิ่งที่ต้องการจะสื่อ น้อยมาก เมื่อเทียบกับเวลาที่ใช้ไป
เป็นการเล่าเรื่องเย่อนเย้อ
โดยเฉพาะโผล่มา 2 ซีน ซีนตอนหลังนี่เกือบหลับ
8. ฉากการรักษาด้วยพลังวัตร เป็นฉากที่กำกับภาพออกมาได้สวยทีเดียว
แต่ติดตรงที่ว่า นักแสดงที่เป็นตัวเด่นของภาพ ดันกระพริบตาพอดี
ทำให้ความรู้สึก drop ลงไปเยอะมาก
9. มีฉากไร้เหตุผลอยู่บ้าง เช่น ตอนที่หมอผู้หญิงตรวจพระอยู่
จู่ๆ ก็บอกพระว่าให้รอแป๊ป
แล้วออกไปทวงตัง คนอื่น (ซะอย่างนั้น)
หรือ ฉากที่พระหยิบยาออกมาให้หมอ
มีโอกาสเป็นไปไ้ด้ที่
พระที่มาหาหมอ จะมียาอยู่ในย่ามสะพายพอดี
และเป็นไปได้ที่
พระที่ไปหาหมอ ที่กำลังวิเคราะห์โรคของตัวเองอยู่
จะเอายาออกมาให้หมอ
แต่โอกาสที่เกิด 2 อย่างพร้อมกันนั้น น้อยเกินกว่าจะเป็นเรื่องทั่วๆไป
จริงๆเป็นฉากที่ต้องการจะใส่ แต่หาที่ใส่ไม่ได้หรือเปล่า
10. ถ้าตัดฉากไร้เหตุผล ข้อ9. ออก จะให้ความรู้สึกเหมือนดูสารคดี สัตว์โลกน่ารัก
เพราะว่าัมันเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง เป็นชีวิตปกติธรรมดาอยู่แล้ว
ไม่มีอะไรแปลก หรือ แตกต่าง ทำให้ดูแล้วจะหลับได้
11. ต่อจากข้อ 10.
จริงๆ มีเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย
แต่หนังกลับตั้งใจนำเสนอข้อคิด ในแง่ลบ เป็นการมองโลกเชิงลบ
ความคิดเห็น