ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไปพิพิธภัณฑ์สยาม มาแล้ว


UPDATE !!!! ดูบล็อกโพส revisit ที่ พิพิธภัณฑ์สยาม พร้อมรูปสวยงาม ได้ Museum Siam Revisited 


มิวเซียมสยาม จ้ะ

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ serie ท่องเที่ยว ดูบทความท่องเที่ยว อื่นๆ ของผม ได้ที่ ลิงก์นี้ นะครับ


จาก เอนทรีเก่า ที่ เบื่อๆ บ่นๆ ถึงที่อยากไป ตอนนี้ก็ได้ไปสองที่แล่ะ
คือ พิพิธภัณฑ์สยาม กับ หอศิลป์วัฒนธรรมกรุงเทพ


วันนี้เพิ่งได้ไปพิพิธภัณฑ์สยามมาเอง
แต่ว่า น้องไปกับเด็กญี่ปุ่นเอากล้องไปด้วย เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลย
ไปช่วงนี้ก็ดีเหมือนกัน อากาศเย็น
แล้วก็คนไม่เยอะมาก เพราะว่า มันเปิดมาสักพักใหญ่ๆแล้ว
คนก็เยอะอยู่นะ ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ มีคุณแม่พาเด็กเล็กๆไปด้วย

รูปเอามาจาก Official Web ของ พิพิธภัณฑ์สยาม น้ะจ้ะ


ตอนแรก ที่เห็นภาพที่เขาโพสกันบนเวป บอกว่า เป็น กระทรวงพาณิชย์เก่า
รูปมันออกเป็นตึกเหลืองๆ
ก็นึกไปว่า เป็นตึกอีกตึกนึง ที่เคยเห็นแถวๆ สนามหลวง ( ซึ่งจริงๆนั่นเป็นกระทรวงกลาโหม มันทาด้วยสี
เหลืองเหมือนกัน เลยเข้าใจผิด )
ตอนที่มันเปิดใหม่ๆ มีคนรีวิวมากมาย มีรูปมาลงเยอะแยะ แม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ก็เคยเอามาลง
แต่ไม่ยักกะมีใครบอก วิธีไป ว่าไปยังไง

รถเมล์สายไหนผ่านบ้าง




จนกระทั่งวันนี้ ลองหาๆดูแล้ว ก็ไม่มีเท่าไหร่นะ
บังเอิญคราวก่อนได้ลองค้นไปเจอเวปทางการของ พิพิธภัณฑ์สยาม พอดี
แต่เนื่องจาก SEO ของเวปมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เวลาค้นหาจาก search engine เลยทำให้มันร่วงไปไหนก็ไม่รู้

วันนี้เข้าไป ก็โชคดี ที่เขาเพิ่มแผนที่ให้แล้ว

ขอ invert เนื่องจากเรา print มันออกมาด้วยล่ะ จะได้ไม่เปลืองหมึก
แล้วลากเส้นเพิ่มละกัน เพราะว่า เราเดินทางด้วยสาย 1 เผื่อไว้สำหรับคนใช้สาย 1 เหมือนกันจะได้รู้กันเลย

ถ้าจะดูแผนที่พิพิธภัณฑ์สยามต้นฉบับก็ ไปที่นี่เลย
ลูกศรสีแดงในรูป คือ ทางเดินรถสาย 1 ที่มาจากเยาวราชนะ นี่กำลังมุ่งหน้าจะไปสนามหลวง ( สาย 1 ถนนตก-สนามหลวง )

เวลาลง เราลงที่ป้ายตรงข้ามสวนสราญรมย์ ( ตรงที่กากบาทไว้นั่นแหละ ) ตรงนั้นเป็น ร.ด. สวนเจ้าเชตุ ซึ่งคนที่เคยเรียนรด. ก็น่าจะคุ้นๆกันอยู่แล้ว

หลังจากนั้นก็เดินนิดหน่อย ผ่านวัดโพธิ์ ข้ามถนนไปก็ถึงแล้วล่ะ ใกล้ๆ 55+




พอไปถึงข้างหน้าก็ผิดไปจากที่คาดไว้นิดหน่อย
เพราะว่า ฝันไว้ว่าเป็นแบบกระทรวงกลาโหมปัจจุบัน คือ ติดถนนใหญ่ เห็นเป็นตึกใหญ่ๆเลย
แต่ไม่ใช่แหะ ต้องมองผ่านประตูเข้าไป
ก็อย่างเขาว่าแหละ เป็นสามชั้น

ห้อง 60x จ้ะ

ชอบ ห้อง 60s ( ซิกส์ตี้ )
ซึ่งปกติเราเคยได้ยินแต่ชื่อ ( เพราะว่าเกิดไม่ทันอ่ะนะ )
พอไปวันนี้เลยรู้ว่า ทำไม คนเขาถึงชื่นชอบยุค sixty กันนัก
ซึ่งเขาจำลองออกมาได้ดีทีเดียว



แล้วก็มีห้องที่เอาหนังสือพิมพ์เก่าๆ มาแปะๆให้ดูกัน ( ซึ่งเราเห็นว่า ถ้าจะอ่านจริงๆ ไปอ่านได้ที่ห้องสมุดธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ อ่ะนะ เขาเก็บไว้ทุกเล่มเลยแหละ มีหนังสือพิมพ์ชื่อแปลกๆที่เราไม่เคยเห็นกันด้วย เคยไปมานานแล้วเหมือนกัน )

แล้วก็พวกสมุด สมุดลายเก่าๆ เหมือนที่เคยซื้อมาจาก งานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ คราวก่อนโน้น

หรือ



ห้องชาวนา ก็ทำเสียงได้ผ่อนคลาย
เสียงน้ำไหล แล้วก็เสียงแมลง
ผ่อนคลายดีอ้ะ



ห้องซากศพ เทคนิคการฉายวีดิโอก็น่าสนใจ
คือ ถ้าไม่ได้ฉายอะไร เราจะมองเห็นเป็นคล้ายๆตู้กระจก ซึ่งมีของโชว์อยู่ด้านใน
แต่พอฉาย กระจกใสกลับกลายเป็นวีดีโอ ของที่อยู่ข้างในก็ไม่เห็นด้วย



แล้วก็มีการฉายแผนที่ลงบนแบบจำลอง ที่มีนูนๆขึ้นมา
ถ้าดูเผินๆ จะนึกว่าเป็นการฉายสามมิติ ก็ทำออกมาได้สวยงาม

ห้องนี้แหละจ้ะ AR เจ๋งดี

ห้องที่ให้เด็กๆไปเขียนว่าถ้าเป็นนายก จะทำอะไร
เป็นจอ widescreen
บังเอิญตอนนั้นมีเด็กๆ อยู่ เลยหยุดมองๆ สักพัก
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า เด็กจะเขียนอะไรลงไป
รอดูไปมาสักพัก หน้าจอก็ดำ แล้วก็ขึ้น logo windows xp !!
จนพนักงานต้องไปขยับ นิดหน่อย เลยกลับมาเหมือนเดิม 55+



จากการเดินของเรา พบว่าเราเดินมั่วๆ มาจากชั้น 3 ลงมา 2 แล้วก็ลงมา 1
ซึ่งจริงๆ เวลาเข้าไปต้องตรงดิ่งไป information ก่อน
เราเลยได้ดูวีดีโอ ห้องแรก เป็นห้องสุดท้ายก่อนออกมา



พอดูหมดทุกชั้นแล้ว เหลือบดูนาฬิกา
อ้าว . . เผลอแป๊ปเดียว สองชั่วโมงแล้ว
ด้านข้างมีตู้ขายเหรียญที่ระลึก 20 บาท ที่เปิดให้เห็นข้างในเหมือนกัน
แล้วก็ร้านกาแฟ
ด้านหลังตึกเป็นที่จอดรถ แล้วก็ที่ถ่ายรูปหมู่ ( สวยนะ แต่งได้สวยเลยล่ะ )
พอออกไปจากนั่น ก็ยังไม่อยากกลับ ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ
ผ่านกระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง แล้วก็เจอสนามหลวง เหลือบไปเห็นเขามีรถเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์ แล้วก็มีให้เช่าจักรยานด้วย ข้างๆ ม.ศิลปากร อ้ะ



ของขายเยอะดี แถวนั้น
สะดุดตากับ รูป พระจันทร์ยิ้ม ที่เขาขาย
เป็นปฏิทิน แล้วก็โปสการ์ด
เป็นรูปพระจันทร์ยิ้ม กับสถานที่สำคัญ เช่นวัดพระแก้ว
สวยมาก
ตรงนั้นวางกันเกลื่อน หลายเจ้าเลย
แต่ติดที่ว่ารูปพระจันทร์ใหญ่ไปหน่อย เลยรู้ว่าตัดต่อมา 55+



ตรงนั้นก็ขายพระเยอะ มีขายพวกตะกุด ( เขียนงี้ป่าวว่ะ ) แล้วก็กล่องกำมะหยี่ใส่แหวนด้วย
เดินเลาะ ไปก็โผล่ที่ท่าพระจันทร์
ตอนเดินไปถึงม.ศิลปากร ก็ตั้งใจไว้ว่า ขากลับนั่งเรือกลับดีกว่า
เพราะว่า ตอนขามา เยาวราช รถติดเหลือเกิน !!



เลยลงเรือข้ามฟาก 3 บาทที่ท่าพระจันทร์ ข้ามไปศิริราช
แล้วต่อเรือด่วน กลับบ้าน
มันมีธงส้ม ธงเหลือง แล้วก็ธงฟ้า
ถ้าจะไปดูรายละเอียดได้ที่นี่
แต่ในเวปมันบอกทางไม่ค่อยดีอ่ะ
ป้ายตรงท่าศิริราช บอกเข้าใจกว่า แต่ว่าวันนี้ไม่มีกล้อง 55+



คนโดยสารเรือเยอะเหมือนกันนะ ช่วงเย็นๆ
ผ่านแชงกอรีล่า โอเรนเต็น ดูเขาก็แต่งได้สวย
มีเรือท่องเที่ยวด้วย ข้างในจัดเหมือนโรงแรมเลย
สุดท้ายก็ขึ้นฝั่งที่ ท่า สาทร ( สะพานตากสิน )
แวะเช่าหนังมาดูก่อนกลับบ้านด้วยล่ะ

หอศิลป์กรุงเทพฯ

ส่วนหอศิลป์วัฒนธรรมกรุงเทพ ก็เป็นอีกที่ ที่ไปมาก่อนหน้านี้ได้สักพักแล้วล่ะ
การออกแบบดีมาก จนเรียกได้ว่า เวลากลางวัน ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยก็ได้
ใช้แสงจากธรรมชาติสุดๆ
แต่ดูไม่ค่อยเป็นหอศิลป์เท่าไหร่ เหมือนกับเอาภาพวาดมาตั้งบน ระเบียง มากกว่า 55+



ถ้าเข้าไปจากทางเชื่อมรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ จะเห็นแผนผังรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เป็นรูปใหญ่บะเฮ้งเลย
ซึ่งเคยเห็นในเมลแล้วแล่ะ
แต่ว่าตอนนี้มันหายไปไหนแล้วไม่รู้
หารูปไม่เจอ



แล้วจะเห็นกลไก สำหรับลาก รถคนพิการขึ้นบันได
เป็นเครื่องไม้เครื่องมือใหญ่เหมือนกัน ดูไฮเทค
มีปุ่มกดคล้ายๆ ลิฟต์
เราก็ไม่กล้าไปกดเล่น 555+
อยากเห็นมันทำงานเหมือนกัน


จริงๆวันนี้ว่าจะแวะไปห้างฯ แต่นึกอีกที ไม่เอาดีกว่า
หาที่ใหม่ๆไป



รถติดนานๆ ก็ไม่ได้หัวเสียเลยทีเดียว เพราะว่าได้ดูโน่นนี่
รถเมล์ที่รอนาน ก็ได้มองคนรอบๆ ตรงป้ายรถเมล์
มันดีกว่า เฉาๆ อยู่บ้านอ่ะ

ออกไปเปิดหูเปิดตา 55+

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แจก คัมภีร์ ไบเบิล ภาษาไทย รวมเล่ม ( download thai bible pdf version )

แปลกใจว่า ทำไม ไม่มี ebook พระคัมภีร์ ที่สามารถ print อ่านได้เลย เลยเอา พระคัมภีร์ภาษาไทย ฉบับ KJV ( Thai Bible King James Version ) มาเย็บรวมเล่ม สร้างไว้เฉพาะ พันธสัญญาเดิม ( Old Testament ) ดาวน์โหลดได้จาก Thai Bible ย้ายแล้วจ้า ย้ายมา อันนี้ จะยัดลง iPhone หรือ iPod Touch ก็ได้ เพราะว่า มันอ่าน pdf ได้อยู่แล้ว จาก iBook ง่าย และ ฟรี ไม่ต้อง crack โปรแกรมให้ผิดศีล ถ้าไม่ชอบรูปแบบยังไง checkout มาแล้ว compile latex เองได้เลย จัดรูปแบบสวยงามแล้ว commit กลับมา จักเป็นพระคุณยิ่ง NOTE: ถ้าท่านต้องการสนับสนุนเรา ท่านสามารถดาวน์โหลด App ของเราได้ทางมือถือ Android ที่ App Words of God เนื้อหาจะเป็นเนื้อหาเดียวกันกับที่แจกฟรีนี้  ซึ่งใน App ท่านสามารถศึกษาพระคัมภีร์ได้แบบ Offline ซึ่งสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต ท่านสามารถพกไปที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ ใน App ท่านสามารถ Search เพื่อค้นหาพระคัมภีร์ได้ และ ใน App เราไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ ของท่าน (เช่น การติดตามว่าท่านอ่านหน้าไหน, การติดตามว่าท่านค้นหาอะไร)  เดิมทีเราเองทำไว้ให้ทุกท่านสามารถเข้าถึงได้ฟรีทางเว็ปไซท์  ที่นี

อยู่เหงาๆ เลาไปเที่ยว - เที่ยวเชียงรายด้วยตัวเอง โดยไม่มีรถ เช่ารถก็ไม่ได้เช่าน้ะจ้ะ นั่งรถสาธารณะล้วนๆแจร้ ตอนแรก : วางแผนเที่ยว

เชียงราย ม่วนใจ๋ ยอมรับเลยว่า หาข้อมูลค่อนข้างยาก กระทู้รีวิว ใน pantip ที่บอกไม่มีรถไป คือ ไม่มีรถส่วนตัวไป สุดท้ายก้อไปเช่ารถขับกันหมด สุดท้ายเลาก็ไปผจญภัยมาจนได้ นี่คือตอนแรกซีรี่ส์เชียงรายของเราน้ะจ้ะ  กล่าวถึงว่า จะไปไหนบ้าง และ วิธีเดินทางในตัวเมืองเชียงราย และ ออกนอกเมืองเชียงรายไปยังที่เที่ยวยังไง 0) ตั๋ว 0 บาท จริงๆ ทริปนี้จับพัดจับผลู ดันกด ตั๋ว 0 บาท ได้ของ VietJet ซึ่งเขาเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ-เชียงราย เลยมีโปรโมชั่นนี้ออกมา จริงๆ บอกว่า 0 บาท แต่มันมีค่าภาษีสนามบิน ค่าอื่นๆ อีก รวมแล้วไปกลับ 508 บาทน้ะจ้ะ ( ภาษีสนามบิน 100 THB, PMT Fee 77 THB, Admin Fee Domestic Thai 77 THB รวมสองขา 508 บาท รวม VAT เป็น 529.56 บาท ) เวลาค่อนข้างโอเคนะ มีคนเคยบอกว่า low cost เวลาไม่ค่อยโอเค แต่เลาว่าเวลานี่โอเคเลย ขาไป 06.30 สนามบินสุวรรณภูมิ - 07.55 สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ขากลับ 15.15 สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย - 16.45 สนามบินสุวรรณภูมิ ขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) จย้ะ ไม่ใช่สนามบินดอนเมือง มีคนบอกว่าให้สังเกตรหัสถ้า BKK คือ สนามบินสุวรรณภูมิ อย่าไปผิดสนามบ

เทคนิคคิดเลขเร็วโดยใช้ วิธีคิด แบบ เวทคณิต ( Vedic Mathematics example )

จากที่สงสัยเรื่อง ลูกคิด ของ จินตคณิต ที่ลองไปค้นดู ปรากฎว่า เจอ เวทคณิต ซึ่งเขาบอกว่า อยู่ในคัมภีร์พระเวท ลองอ่านดูแล้ว รู้สึกว่าฝึกสมอง ก็ทำให้คิดเลขเร็วดี เลยสรุปมาให้ ตามนี้ Tutorial 1 การลบเลข ALL FROM 9 AND THE LAST FROM 10 ทุกตัวลบจาก 9 และตัวสุดท้ายลบจาก 10 เช่น 1000 - 357 = 643 10,000 - 1,049 = 8951 ถ้า 1,000 - 83 ให้มองว่ามี 0 อยู่ข้างหน้า เป็น 1,000 - 083 = 917 ฝึกบ่อยๆ ก็คล่อง แล้วก็ไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลขด้วย ลองทำดูสิ 1) 1000 - 777 = 2) 1000 - 283 = 3) 1000 - 505 = 4) 10,000 - 2345 = 5) 10,000 - 9876 = 6) 10,000 - 1011 = 7) 100 - 57 = 8) 1000 - 57 = 9) 10,000 - 321 = 10) 10,000 - 38 = 3,000 - 467 ก็ทำเหมือนกัน โดยลบตัวแรกสุดของ 3,000 ไป 1 จากนั้นก็ทำเหมือนเดิม จะได้ว่า 3,000 - 467 = 2,533 Tutorial 2 VERTICALLY AND CROSSWISE สำหรับตัวเลขที่น้อยกว่าฐานนิดหน่อย ลอง 88x98 88 น้อยกว่า 100 อยู่ 12 98 น้อยกว่า 100 อยู่ 2 12x2 = 24 88-2 หรือ 98-12 ได้ 86 ดังนั้นตอบ 8,624 ดูอีกตัวอย่าง หรือ ลองทำนี่ดู 1) 87 x 98 = 2) 88 x

สัจพจน์ของความน่าจะเป็น ( axioms of probability )

สัจพจน์ของความน่าจะเป็น ( axioms of probability ) ให้ A เป็น เหตุการณ์สุ่ม ที่มี ปริภูมิตัวอย่าง เป็น S สัจพจน์ข้อแรก P(A) เป็นจำนวนจริงมีค่าระหว่าง 0 กับ 1 0 ≤ P(A) ≤ 1 สัจพจน์ข้อที่สอง P(S) = 1 สัจพจน์ข้อที่สาม สำหรับเหตุการณ์ A 1 , A 2 , .. , An ที่ไม่เกิดร่วมกัน หรือเขียนให้เข้าใจง่ายๆว่า หรือ P(E1 U E2 U ..) = P(E1)+P(E2)+.. ผลที่ได้จากสัจพจน์ 1. P(A c ) = 1-P(A) พิสูจน์ P(S) = 1 = P(A U A C ) = P(A)+(A C ) 2. พิสูจน์ A U B = AB U AB C U A C B P(A U B) = P(AB)+P(AB C )+P(A C B) P(A) = P(AB)+P(AB C ), P(B) = P(AB)+P(A C B) หมายเหตุ ที่เขียนติดกัน เช่น AB คือ A ∩ B น้ะจ้ะ Statical Independent ถ้า A, B, C เป็นอิสระต่อกัน ( Statical Independent ) จะได้ว่า P(ABC) = P(A)P(B)P(C) หรือขยายไปถึง A 1 , ..., A n เลยก็ได้ ซึ่งนี่ก็คือ กฎการคูณ นั่นเอง

สอบสัมภาษณ์ MBA คำถามและการเตรียมตัว

 * “แนะนำตนเอง” การแนะนำตนเองไม่ใช่แค่บอกชื่อ-นามสกุล ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน หรือ ประวัติการศึกษาเท่านั้น ข้อมูลเหล่านี้ต้องพูดถึง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ส่วนที่สำคัญในการแนะนำตนเองก็คือต้องขายความเป็นตัวตนของเรา ความสามารถของเรา และ/หรือวัตถุประสงค์ในการเลือกเรียนหลักสูตรนี้  พยายามตอบคำถามให้สอดคล้องกับ MBA ไม่ต้องนาน ประมาณ 2–3 นาที เน้นเนื้อ ไม่เน้นน้ำ ซ้อมพูดเยอะๆ ถือว่าเป็น First Impression * ทำไมจึงเลือกสมัครเข้าเรียนหลักสูตรนี้  ทำไมถึงมาเรียน MBA ทำไมอยากเรียน MBA ทำไม อยากเรียนตอนนี้  * ทำไม ต้องเรียน MBA ที่นี่ -- ลองศึกษา Program ของมหาลัยที่จะไปดูน้าว่ามหาลัยมีอะไรเด่น * คิดว่าถ้าเรียน MBA จะมี Challenge อะไรบ้าง * สนใจโปรแกรมอะไรบ้าง * หลังเรียนจบอยากทำอะไร * ต้องการอะไรจากหลักสูตรนี้  เรียนแล้วคิดว่าจะได้อะไร เอาไปใช้อะไรในชีวิต * ทำไมไม่เรียนสาขาอื่น ถ้าอายุงานถึงเรียนอย่างอื่นได้ * ในองค์กรที่ทำงานอยู่สามารถเติบโตได้ถึงตำแหน่งไหน * Performance ปัจจุบันเป้นยังไง  * ดูดีอยู่แล้ว แล้วมาเรียน MBA ทำไม เพราะงานที่ทำอยู่ก็มีโกาสก้าวหน้าในสายอาชีพบริหารอยู่แล้ว * ไม่ได้เรียนม

เรื่อง matrix ที่อาจจะลืมกันไปแล้ว

Rank ของ matrix Rank ของ matrix A คือ จำนวน independent columns (หรือ rows) ของ A นั่นคือ square matrix จะ full rank ถ้า ทุกคอลัมน์ independent กัน เมื่อ full rank, det จะ = 0 วิธีหา rank อาจหาได้โดย [U, W, V] = svd(A) แล้วดูว่า rank คือ จำนวน residual ของ W ที่ไม่เป็น 0 full rank = singular matrix = หา inverse ได้ สมบัติของ rank 1. rank(AB) <= min(rank(A), rank(B)) ย้ำว่า < หรือ = นะ ดูสมบัติอื่นๆ ได้จาก wiki Null Matrix เมตริกซ์ศูนย์ (Zero Matrix หรือ Null Matrix ) คือ เมตริกซ์ที่มีสมาชิกทุกตัวเป็นศูนย์หมด Orthogonal Matrix Cramer's rule Ax = b Cramer's rule ใช้ได้เมื่อ A เป็น square matrix เท่านั้น กรณีที่มีจำนวน สมการ มากกว่าจำนวน ตัวแปร ( A mxn เมื่อ m > n ) หรือเราเรียกว่า over parameter เราไม่สามารถหา inverse ของ rectangular matrix ได้ ให้ไปใช้ psudoinverse แทน x = A + b หรือ หรือ หรือ ไปใช้ SVD แก้สมการซะ คำตอบคือ last col of v ! Gaussian elimination method ใช้แก้สมการ เช่นเดียวกับ กฏของ คราเมอร์ วิธีคิดหลักๆ คือ ทำให้สามเหลี่ยมล่างเป็น 0 ให้หมด โดย

วิธีการไป อย. กระทรวงสาธารณสุขจากหัวลำโพง

ทางไป : รถไฟฟ้า MRT หัวลำโพง ไปลงที่ สถานี กระทรวงสาธารณสุข  ถ้ากดที่ตู้ต้องเปลี่ยนไปหน้าจอสายสีม่วง สนน ราคา 48 53 บาท ต่อมอไซด์ ถ้าไป อย. 20 บาท จากหน้าทางเข้า  ถ้าฝนตกแนะนำให้โบกแท็กซี่จากข้างหน้า ข้างในหาแท็กซี่ยากมาก ถ้าจะเดินประมาณ 2.4 km ให้ระวังหลงเข้าไปรพ ศรีธัญญา รพ ศรีธัญญาพื้นที่ข้างในใหญ่มาก และเหมือนจะล้อมด้วยคลอง เหมือนจะมีทางออกแค่ทางที่เข้าไปนั่นแหละ ทางกลับ : รถเมล์ 97 จาก อย. ตรงข้ามประกันสังคม ทางที่ 1 : ถ้าจะใกล้ลงหน้าปากซอยขึ้นสายสีม่วงที่สถานีกระทรวงสาธารณสุขที่เดิม ทางที่ 2 : ผ่าน ท่าน้ำนนท์​ กลับเรือได้ ทางที่ 3 : ผ่านหน้าพระจอมพระนครเหนือด้วยนะ ผ่าน สถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ  ( จาก อย. ไป MRT บางซื่อ 17 บาท,  จาก MRT บางซื่อ ไป MRT หัวลำโพง 44 บาท นั่งกลับได้ 2 ทาง ทางหัวลำโพง กับ ไปเปลี่ยนที่ท่าพระ ไม่รู้ว่าทางไหนเร็วกว่ากัน ) ทางที่ 4 :  ผ่าน สะพานควาย  ทางที่ 5 :  นั่งถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ ค่ารถเมล์ 21 บาท ค่ารถไฟฟ้าไป BTS สะพานตากสิน 47 บาท 

ส่งไปรษณีย์ทีละมากๆ ที่ช่องไปรษณีย์สำหรับธุรกิจ

  ถ้าเราส่งไปรษณีย์ทีละ 10 กล่องขึ้นไป สามารถไปส่งโดยใช้ช่องทางธุรกิจได้ โดยต้องกรอกใบรับฝากรวม ( Receipt for bulk Posting ) เป็นลิสต์รายการให้เขาไปด้วย โดยกรอกพัสดุแต่ละรายการ และ ไปยื่นให้เขาพร้อมกับพัสดุที่จะส่ง วิธีกรอก คือ ให้กรอกพัสดุแบบเดียวกันไว้แผ่นเดียวกัน  เช่น พัสดุ10 กล่อง กล่องขนาดเท่ากัน น้ำหนักเท่ากันหมด กรอกไว้ 1 แผ่น ถ้าน้ำหนักต่างกัน ขนาดกล่องต่างกัน กรอกแยกแผ่นไว้ดีที่สุด ซึ่งใบนี้สามารถไปขอได้ที่ไปรษณีย์ฝ่ายธุรกิจ สามารถนำมาทำใส่ A4 ก็ได้ ขอบคุณคุณพี่ amarin.ch ที่ไปรษณีย์กลาง ( BANGKOK G.P.O. ) มากๆ นะครับ สำหรับคำแนะนำ ขอบคุณที่ช่วยคีย์ให้ทีละรายการสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่ามีใบรับฝากรวมอย่างผมด้วยครับ คราวหน้าผมจะทำใบรับฝากรวมไปครับ

ข้อแตกต่างระหว่าง Mahalanobis distance กับ Euclidean Distance : ทำไม และ เมื่อไหร่ ต้องใช้ Mahalanobis distance ใน data mining

Euclidean Distance นิยาม EuclideanDistance = sqrt(sum( (A - B) .^ 2 )) โชว์เหนือ เขียนแบบ linear algebra EuclideanDistance = norm(A - B) ข้อเสียของ Euclidean distance 1. sensitive to scales ของตัวแปร ในกรณี geometric ตัวแปรทุกตัวมีหน่วยเดียวกันหมด คือ ระยะทาง แต่เมื่อพิจารณาตัวแปรที่มีข้อมูลหลายชนิดพร้อมๆกัน เช่น ใน data mining เราอาจจะพิจารณา อายุ, ความสูง, น้ำหนัก ฯลฯ พร้อมๆกันหมด สเกลมันเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ 2. Euclidean distance ใช้กับตัวแปรที่ correlated กันไม่ได้ เช่น สมมติว่าเรามี data set 5 ตัวแปร ที่ซึ่งค่าของตัวแปรหนึ่งเหมือนกับอีกตัวแปรหนึ่งเด๊ะๆ ( กรณีนี้เหมือนเด๊ะ เลยเป็น completely correlated ) Euclidean distance จะคำนวณโดย weight ข้อมูลที่ซ้ำกันมากขึ้น ทำให้มีปัญหา Mahalanobis distance นิยาม เมื่อ S คือ covariance matrix และ x, y มี distribution เดียวกัน Mahalanobis distance มันพิจารณ่า covariance matrix ไปด้วย เลยขจัดปัญหาเรื่อง scale และ correlation ที่ Euclidean Distance มีได้ ใน MATLAB ใช้ฟังก์ชั่น mahal() หรือ pdist() ดูตัวอย่าง mahaldist.m ของคุณ Peter J. Ackl

เลขฐานสอง ติดลบ เรื่องที่อาจจะลืมกันไปแล้ว

คอมพิวเตอร์ใช้การเปิดปิด หลอดสุญญากาศ ดังนั้นค่าที่เป็นไปได้คือ 0 กับ 1 ไม่มีติดลบ จึงกำหนดให้ใช้ 2's complement มากำหนดเลขลบ วิธีทำคือ เปลี่ยนเลข 1 เป็น 0 เปลี่ยนเลข 0 เป็น 1 แล้ว บวกหนึ่ง เช่น 1 คือ 00000001 เปลี่ยนเป็น 11111110 บวก 1 ได้ 11111111 บิตที่อยู่หน้าสุดจะบอกว่าเป็นเลขบวกหรือลบ ( 0 = +, 1 = -) พิสูจน์ จาก สมการคณิตศาสตร์​ 1 + (-1) = 0 00000001 + ???????? = 0 00000001 + (11111110 + 000000001 ) = 0 นั่นเอง วิธีที่ง่ายกว่านั้นในการทำ 2's complement คือ 1. หา 1 ตัวสุดท้าย 010100 1 2. invert ตัวหน้า 1 ทั้งหมด 101011 1 สำหรับคนที่ลืมไปแล้ว 1's complement คือเปลี่ยนเลข 1 เป็น 0 เปลี่ยนเลข 0 เป็น 1 ตามปกติ เช่น ~1 1 = 00000001 ~1 = 11111110 ซึ่งมีค่าเท่ากับ -2 ที่มา : วิชาการดอทคอม , wikipedia