วันนี้นั่งเรือกลับจากทำบุญที่วัด
จู่ๆเครื่องยนต์ก็ดัง ตึงๆๆๆๆ
คนขับเรือหันหลังไปถาม คนเก็บตั๋ว
คนเก็บตั๋วบอก แค่ท่อไอเสียหลุด ไม่มีอะไร
แต่พอหันตามไปดู
เครื่องยนต์ควันขโมงโฉงเฉง พร้อมกับมีเสียงตึงๆๆๆ
เราเองนึกไปถึง เหตุการณ์เรือล่มที่เกาะสักเกาะ ที่เป็นทริปทำบุญ คนแก่ที่ไปตายกันหลาย
กับ เหตุการณ์ที่อาแปะแถวบ้านปีนไปเช็ดตี่จู๋เอี้ยบนหิ้ง แล้วโดนตี่จู๋เอี้ยถีบลงมา ตกลงมา ทำให้เดินไม่ได้
ยังมีคนในเรือหยิบมือถือมาถ่าย นี่ก็นึกในใจว่า นี่มึงห่วงคอนเทนต์มากกว่าชีวิตตัวเองหรือยังไง เกิดเครื่องที่ควันโขมงแม่งระเบิดตู้มต้ามขึ้นมาจะทำยังไง
เราเอง มองไปรอบๆ ว่าจะยังไงดี เพราะเรือบรรทุกคนมาค่อนข้างแน่น คือ นอกจากที่นั่งแล้วก็มีคนยืนอยู่ประมาณนึง ชูชีพพอสำหรับคนนั่ง แต่ไม่น่าจะพอสำหรับคนที่ยืนทั้งหมดแน่ๆ มีคนที่นั่งบางคนเอาชูชีพออกมารอไว้แล้ว
เลยคิดว่า ทางนึงที่จะรอดได้คือ รีบชิงห่วงยาง หรือไม่ก็ต้องกรรเชียงไป แต่ต้องไปให้ถูกฝั่ง ขืนไปผิดทางไปทางกลางแม่น้ำ แม่งซวยหนักไปอีก
แต่ระยะห่างระหว่างเรือกับฝั่งที่ใกล้ที่สุดก็ห่างประมาณนึง
คนขับเรือขับเร็วมากไม่ได้ เพราะถ้าขับไป มันก็มีเสียงตึงๆๆ น่ากลัว
เลยไปได้อย่างช้าๆ
และสักพักตึง ! เครื่องดับ
สตาร์ทไม่ได้
คนขับเรือเริ่มโทรขอความช่วยเหลือ
โล่งอก ! อย่างน้อยไอเครื่องนั่นก็ทำเรือล่มไม่ได้ เรือที่ลอยตุ๊บป่องๆ ก็ยังดูปลอดภัยกว่า เสียงเครื่องยนต์กับควันตะกี้
เรือลอยได้สักพัก ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีเรือมาช่วยเหลือ
สักพัก เห็นเรืออีกลำที่กำลังจะออกจากท่า คนขับเรือและกระเป๋า เลยตะโกนบอกให้ช่วยลากเรือเข้าท่าเรือให้หน่อย
ทางโน้นตอบว่าให้ไปเชื่อมจากอีกด้านหนึ่งของเรือ
แล้วเรือลำนั้นก็กลับเรือของเขาให้
แล้วโยนเชือกมาให้คล้องที่เสาประมาณกลางๆเรือของเรา คนขับเรือก็ใช้แรงพันๆกับเสาเพื่อให้เรือสองลำเข้ามาขนานกัน ด้านบนหรือด้านหลังน่าจะมีคล้องด้วย แต่เรามองไม่เห็น
กลายเป็นเรือสองลำคู่ขนานกันไป
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่รู้ รีบข้ามเรือไปอีกลำ
คนขับเรือกับกระเป๋าก็บอกให้อีกลำช่วยบอกให้กลับมาที่เดิม เพราะเรือลำที่มาช่วยลากจูงแค่มาช่วยลากจูง แต่สุดท้ายกำลังจะไปอีกทางหนึ่ง ไม่ได้ไปทางที่เราจะไป
สุดท้ายเรือที่ลากจูงก็พาเรากลับมายังท่าเรือได้
โดยคนขับเรือต้องเปิดพื้น เพื่อหยิบเชือกจากใต้ท้องเรือออกมา แล้วเป็นคนไปคล้องกับเสายึดที่โป๊ะ
นับเป็นประสบการณ์การเทียบท่าที่แปลกใหม่ เพราะปกติเรือจะถอยด้วยเครื่องยนต์ แต่คราวนี้เนื่องจากมีเรือสองลำ เรือที่ขับก็ถอยแรงมากไม่ได้ ต้องค่อยๆ ถอย แล้วใช้แรงคนช่วยดึงเอาแทน
การเทียบท่าก็ยังมีช่องว่างห่างบ้าง เพราะไม่มีเครื่องยนต์เรือมาช่วย ทำให้คนขับเรือกับกระเป๋าเรือ ต้องช่วยยื่นแขนเพื่อดึงคนขึ้นฝั่ง แต่ก็มีบางช่วงตอนที่เราลง ที่เรือลอยไปไม่ห่างโป๊ะมาก
นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ของเราดี
คนขับเรือที่ดูปกติเหมือนนั่งขับเฉยๆ กลับแก้ปัญหาจากวิกฤติได้คล่องแคล่ว สมเป็นกัปตันเรือ
เห็นกระเป๋าเรือบอกตอนชาวต่างชาติย้ายเรือไปว่า เป็นเรื่องปกติที่เรือเครื่องยนต์ดับ แสดงว่า มีเกิดบ้าง เพียงแต่เราเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก process ต่างๆ ก็น่าจะมีการซักซ้อมกันประมาณหนึ่งว่าถ้าเกิดแบบนี้แล้วต้องทำอย่างไร ดูจากความไม่ตื่นตกใจ และ ต่างคนต่างรู้ว่าต้องทำอะไร
หัวข้อก็พาดเรียกแขกไปอย่างนั้น ตามอารมณ์ตอนแรกที่รู้สึกตอนเจอเครื่องยนต์เสียงดัง กับควันขโมง จนนึกไปถึงว่าจะระเบิด หรือไฟไหม้
แต่จริงๆ แล้ว ทางเรือด่วนเจ้าพระยามีแผนการแก้ไขปัญหาที่น่าจะซักซ้อมกันมาแล้วอย่างดี สมกับเป็น #เจ้าบ้านที่ดี ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เราจึงสามารถมั่นใจได้ถึงการเดินทางทางน้ำของเราว่า ปลอดภัยประมาณหนึ่ง ถึงแม้เกิดปัญหา แต่เขาก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างราบรื่น
แรกๆตกใจ หลังๆ คือ ประทับใจ
#จบปิ้ง
ความคิดเห็น