dsin

น้องตอนมาใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 201 7 ตอนนี้ก็หลายปีแล้ว ตะบองเพชรน้อยที่เลี้ยงไว้ เริ่มแตกหน่อออกมาหลายหน่อ ประกอบกับกระถางใบโฮย่าซึ่งใบเหลืองไหม้เน่าตายไปยังเหลืออยู่ ซึ่งมีกาบมะพร้าวเหลืออยู่จากที่เขาแถมให้มากับกระถางด้วย เลยสงสัยว่า  เอาหน่อแคคตัสไปปลูกอีกกระถางทำยังไงอะ สามารถเด็ดแล้วเอาไปวางในอีกกระถางนึงเลยได้เปล่า หรือ มีอะไรต้องระวังเป็นพิเศษหรือเปล่า ? ไปถามเพื่อนๆมีคนตอบมามากมาย ขอสรุปได้ดังนี้ * เด็ดได้เลยนะแล้วเอาไปแปะในดิน * ถ้าแผลที่หน่อที่เด็ดออกมาใหญ่จะผึ่งให้แห้งสักวันสองวัน ขึ้นกับขนาดหน่อด้วยครับถ้าใหญ่หน่อยรากจะมาเร็ว แต่ถ้าบางทีเล็กไปรากมายากครับ ตอนชำปกติหาวัสดุชำสะอาด ๆ เช่น พวกทราย ดินญี่ปุ่น หรือหินภูเขาไฟ เอาหน่อวาง โชยน้ำเมื่อวัสดุปลูกใกล้แห้ง เอาวางไว้ในร่มไม่โดนแสงแดดโดยตรง มีคลิปแนะนำด้วย https://www.youtube.com/watch?v=udzpr7Zpj38 สรุปคือ สามารถเด็ดได้เลย ไม่ต้องเอามีดฝาน โดยเด็ดจากหน่อที่ใหญ่หน่อยที่มีน้ำในตัวเยอะหน่อย จะได้ไม่เฉาตายไปก่อน ก่อนเด็ดรดน้ำเยอะหน่อย หน่อที่เราเด็ดออกมามีรากโผล่มาเองบ้างแล้ว อาจจะเพราะทิ้งไว้กับต้นนาน ปักลงไปในกาบมะพร้าวแล้ว เกิดข้

  * ระหว่างรอไม้พาย จะทอดไข่ดาว ก็แอบไปเห็นโจทย์ทอดไข่ดาวของ master chef เคล็ดลับคือ น้ำมันต้องร้อนก่อนแล้วค่อยเอาไข่ลงไป จะได้ไข่ขาวข้างนอกเกรียมและไข่แดงไม่สุก และเหมือนต้องใช้ wok ไม่ใช่ กระทะเทฟลอนแหะ จะซื้อไม้พายมาทำไม * ไข่ต้มยางมะตูม ประมาณ​ 3 นาที จะเอาสุกแค่ไหน มีคนทำรูปให้ดูแล้วว่ากี่นาทีได้แข่แบบไหนในเน็ต ไปหาดูเอาได้ * upskill มาทำไข่ตุ๋นแล้ว ใส่นำ้เปล่า ผลคือ จืด ในพันทิพ สอนทำไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น เขาว่าแทนที่จะใส่น้ำเปล่าให้ใส่ซุปไก่ก้อนลงไปแทน น่าจะเพิ่มรสเค็มลงไปได้ ว่างเหรอไง

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่อง วันหนึ่งเกิด เลือดกำเดาไหลบ่อยขึ้นมา ประกอบกับมีไข้ช่วงโควิด ในหนังชอบมีบ่อยๆ ว่า ถ้าเลือดกำเดาไหล อีกไม่นานจะตาย ก็เลยตกใจ นึกว่าติดโควิดแล้วมีผลข้างเคียง  ไปบอกป๊า ป๊าบอกมีสูตรยาจีนแก้เลือดกำเดาไหล เลยโล่งใจ ซึ่งไปหาดูแล้ว อาการโควิด ไม่ได้มี เลือดกำเดาไหลซักหน่อย  สุดท้ายไม่มีอะไร ทำไมหนังชอบทำเลือดกำเดาไหลแล้วตายก็ไม่รู้

จดบันทึกไว้บ้าง เผื่อตอนหลังกลับมาอ่านจะได้ไม่ลืม ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์โควิด19 มาเกือบสองปีแล้ว ไวรัสโคโรนาตัวร้ายที่ทำให้เราไม่สามารถออกไปข้างนอกได้อย่างปกติ อาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา บางคนไข้ 37.5 องศา ท้องเสีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย บางทีผิวหนังเป็นจุด อาการแตกต่างกันไปตามแต่ละคน ทำให้สงสัยได้ตลอดเวลาว่ากุติดรึเปล่าวะ ที่มันร้ายกว่าไข้หวัดคืออันตรายอยู่ที่ถ้าซวยไวรัสลงปอดแล้ว จะทำให้ออกซิเจนลงต่ำ ช่วยตัวเองไม่ได้ หายใจเองไม่ได้ จำเป็นต้องใช้เครื่องออกซิเจน จนอาจเสียชีวิตได้ แต่อัตราการลงปอดยังไม่มาก และอีกอาการนึงที่ข่าวออกมาให้เห็นบ้างคือ รักษาหายแล้ว พอไม่นานกลับไปตายที่บ้าน หรือ ตายระหว่างทางกลับบ้าน ส่วนตัวคิดว่า หมออาจจะลืมตรวจ คือ อาจจะไปอยู่ในกระแสเลือด ซึ่งตรงนี้อันตราย เพราะกระแสเลือดสามารถเข้าถึงอวัยวะทุกชนิดในร่างกาย อันนี้คิดเอาเอง แต่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นแบบนั้น ต้องขอบคุณการแพทย์ที่สามารถฟันได้ว่า โรคนี้ไม่ติดจากอากาศ แต่เกิดจากการติดเชื้อจากคนสู่คน ทำให้เราสามารถทำอะไรได้มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว เพราะถ้าติดในอากาศจะเกิดความฉิบหายเกิดขึ้น เพราะจะป้องกันยังไง อากาศก็อยู่ทุกที