เห็นจาก facebook ของพี่ตู้เขียนไว้ 3 ข้อ ผมเห็นว่าดี เลยเอามาเขียนบ้างดีกว่า
ช่วงนี้บล็อกยิ่งดองๆอยู่ด้วย
เริ่มเลยละกันนะ
วันนี้บังเอิญน้องเช่า "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก" มาดู จาก ร้านเช่าซีดี แถวบ้าน
จริงๆ ร้านนี้หนังเยอะดีเหมือนกัน ราคาเช่าก็ไม่แพง
ส่วนใหญ่หนัง บรรยายไทย จะหายากสักหน่อย แต่เรื่องนี้เป็นพากษ์ไทยเลยไม่เป็นไร
น้องเล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้เข้าพร้อมกับ กวน มึน โฮ
แล้วน้องก็ดูกวน มึน โฮ ไป ไม่ได้ดูเรื่องนี้
เขาบอกว่า นางเอกไม่สวย แล้วพระเอกก็เล่นแข็ง
แต่เพื่อนบอกว่า เรื่องนี้สนุกกว่า อ้าว !?
ก็เลยนั่งดูไปซักหน่อย
แปลกใจเหมือนกันที่เขาให้มาแผ่นเดียว เพราะปกติ ซีดีหนัง มันจะสองแผ่น
แอบงง ตอนที่มันบอกว่า continue on disc 2
อึ้งอยู่พักนึงเหมือนกัน
แต่สักพักหนังก็เล่นต่อ ไม่มีอะไร
ดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวนี้เขาประหยัดซีดี ดี
หนังเรื่องนี้หลายคนคงดูกันไปแล้ว ไม่สปอยละกันนะ
ผมจะมีโอกาสไปดูหนังในโรงหนังเป็นช่วงๆ
ช่วงไหน ได้ไป ก็จะดูเยอะมาก
แต่ถ้าช่วงไหนไม่ได้ไป ก็จะไม่ได้ไปดูเลย
นี่ก็คิดว่า ไม่ได้ไปดูใน โรงหนัง มานานแล้วเหมือนกัน
หนังสนุกดี ทำให้นึกถึง เหตุการณ์สมัยเด็กๆ
กระดานที่เขียนไว้ก่อนปิดเทอมว่า "ลาก่อน ม.๑ เจอกัน ม.๒"
ทำให้รำลึกถึงวันเก่าๆ ได้ดีทีเดียว
น้องบอกว่า มันจะอินกับตัวเอง
ก็คิดในใจว่า จะอินเฉพาะ ผู้หญิงหรือเปล่า
เพราะที่แอบดูตัวอย่างหนัง มันทำมาเป็นอย่างนั้น
แต่พอดูจบแล้ว ก็อาจจะอินน้อยกว่าผู้หญิงเขาหน่อย แต่หนังสนุก ไม่น่าเบื่อ โอ อยู่ๆ
นางเอกก็น่ารักดีนะ อิอิ
สองสามวันก่อนเพิ่ง join BIGTreesProject ไป
เห็นเขารวมตัวกัน เพื่อไม่ให้คนมาโค่นต้นไม้ใหญ่ ในกรุงเทพฯ
ดูแล้วดีจัง
ต้นไม้ใหญ่ควรค่ากับการรักษาไว้
จริงๆ มีต้นโพธิ์หลังบ้านต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง
ถูกโค่นไปต่อหน้าต่อตา
ตอนนั้นยังเด็ก เขาจะทำถนนให้ใหญ่ขึ้นเลยต้องโค่นมันไป
เสียดาย ก็เสียดาย แต่ไม่รู้จะทำยังไง
social media ก็ไม่มีเหมือนสมัยนี้
หวังว่า โปรเจคนี้จะได้อยู่นานๆ เพื่ออะไรๆ จะได้ดีขึ้น
วันก่อนแอบไปเห็น รูปถ่าย ของน้องคนหนึ่งบน facebook
เขาบริจาคเงินให้เด็ก ตามโครงการ World Vision
เลยมีจดหมายขอบคุณจากเด็กชาย เขียนมาให้
ดูเหมือนว่า โครงการ จะให้ เลือกบริจาคตามพื้นที่ได้
สงสัยว่าน้องเขาเลือก ประเทศไทย
จดหมายที่ได้เลยเป็นภาษาไทย
เป็นลายมือเขียนมา 2 หน้า เขียนมาแนะนำตัวเอง
บอกถึงวิชาที่ชอบ อาหารที่ชอบ อาชีพที่อยากเป็น
แล้วก็เขียนมาขอบคุณ
เริ่มด้วย "สวัสดีครับท่านผู้อุปการะที่เคารพ"
อ่านไปยิ้มไปเลยล่ะ
น่ารักมากๆ
ไม่เอามาลงละกัน ไม่ได้ขอน้องเขา
จริงๆ ก็ไม่ได้สนิทอะไรมาก เป็นแฟนของเพื่อนอีกทีนึง
บังเอิญมันโผล่ขึ้นมาบน facebook เห็นว่าน่ารักดี เลยเก็บมาเล่าให้ฟัง
ช่วงนี้นาฬิกาชีวิตผมเดินช้าสักหน่อย
ทำตัวเรื่อยเปื่อย
ทั้งๆ ที่เอกสารก็ยังเขียนไม่เสร็จ
นัดวันอาจารย์ก็ยังไม่ได้
มันเบื่อๆ เซ็งๆ
ไม่อยากทำอะไร
แปลกดีเหมือนกันว่า เวลาที่มีงาน งานก็จะประดังเข้ามา
แต่พอเวลาว่างๆ เบื่อๆ กลับไม่มีอะไรเลย
เพื่อนเคยโทรมาปรึกษา ก่อนพรีเซนท์งาน 1 วัน
ตอนนั้นก็ให้คำปรึกษาได้ไม่เต็มที่ รู้สึกไม่ดีเลย
ถ้าโทรมาตอนนี้คงจะคุยกันได้ทั้งวัน
แปลกดี ตอนที่ว่าง ก็ว่างเกิน
จริงๆ ก็ไม่ว่างหรอกนะ
ผมทำตัวให้ว่างเอง
ผมพยายามจะไม่ให้สมองซีกซ้ายมีอิทธิพลมากเกินไป
เห็นได้จากหลายๆ บล็อก
พยายามออกไปดูโน่น ดูนี่
แต่ช่วงหลังๆ ผมแบ่งเวลา ได้ไม่ดีนัก
เลยหมกมุ่นอยู่กับงานมากเกินไป
โดยไม่ได้ยุ่งกับ ศิลปะ
ถ่ายรูป เล่นดนตรี หรือ วาดรูปเล่น เลย
ไปๆ มาๆ ก็เลยติดเป็นนิสัย
กลายเป็นอยู่บ้านเฉยๆ
ถ้าไม่อยู่บ้านเฉยๆ ก็ไป-กลับ มหาวิทยาลัยแค่นั้น
ไม่ได้ไปที่อื่น
สงสัยวันหน้าวันหลัง ต้องหาโอกาสออกไปโน่นนี่บ้าง
อย่างตอนนี้ มี นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เปิดใหม่
เห็นมาจากในทีวี กับ เอกสารของทางด่วน
น่าไปเหมือนกัน
ต้องชนะความขี้เกียจ ออกไปให้ได้
จริงๆ ผมดองบล็อกมานาน
มีเรื่องเขียนอยู่ อย่างที่ไป เวอร์จิเนีย นิวยอร์ค หรือ เกาหลี
ก็ยังไม่ได้เอามาลง
มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย รูปก็เยอะ เยอะเกินไป
เพราะว่า มันเยอะเกินไปนี่แหละ ทำให้ขี้เกียจ
ยิ่งคิดว่า จะต้องปรับแต่งรูปอีก
อู้ไป อู้มา เลยคิดว่า วันหลังดีกว่า
ยิ่งนานไป เรื่องราวก็ยิ่งเลือนๆ
ถ้าวันไหนว่างๆ อยากเขียน จะนั่งเขียนละกัน
ช่วงหน้าหนาว Event เยอะมาก
เยอะจนผมอยากไปให้หมดทุกอัน
แต่มันเวิ่นเว้อ ช่วงนี้ เลยไปได้แค่บางอัน
น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับ Event ทั้งหมด
ก็อีกนั่นแหละ งานส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับงาน
มันเปิดหูเปิดตาเรานะ แต่บางที มันก็ดูเครียด แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ด้วย
เขียนไปเขียนมา ยาวซะได้
จบตรงนี้แหละ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ความคิดเห็น